ออริจิ้นโชว์รายได้ไตรมาส2 โต 130%

ออริจิ้นโชว์รายได้ไตรมาส2 โต 130%

“ออริจิ้น” แย้มไตรมาส2 รายได้โต 130% ครึ่งปีหลังโตแกร่ง หลังผู้ถือหุ้นไฟเขียวผนึกพราวด์-ตุนแบ็กล็อกคุณภาพรอรับรู้รายได้เพียบ

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), และเคนซิงตัน (Kensington) กล่าวว่า บริษัทประเมินว่าช่วงไตรมาส 2/2560 ที่ผ่านมา บริษัทน่าจะมีรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 130% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเติบโตขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ทั้งนี้ในส่วนของยอดพรีเซลที่มีลูกค้าทำสัญญาแล้ว ปิดครึ่งปีแรกกวาดไปกว่า 4,200 ล้านบาท หรือคิดเป็นกว่า 30% ของเป้าพรีเซลในปีนี้

ขณะที่ปีนี้ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่รอเปิดตัวอีกราว 4 โครงการ รวมถึงมีโครงการบ้านแนวราบโครงการแรกอีก 1 โครงการ จึงน่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมาย ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2560 บริษัท มีแบ็กล็อกรอรับรู้รายได้กว่า 14,300 ล้านบาท ปัจจัยหลักจากการเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการและ 1 โครงการเฟสใหม่ในไตรมาส 2/2560 ซึ่งคาดว่ายอดจองในไตรมาส 2/2560 จะสามารถรับรู้เป็นยอดทำสัญญาหรือพรีเซลครบภายในไตรมาส 3/2560 รวมได้กว่า 4,000 ล้านบาทตามเป้า

“ที่ผ่านมา บริษัทสะสมยอดรอรับรู้รายได้หรือแบ็กล็อกคุณภาพจากการพัฒนาและขายโครงการมาโดยตลอด เพราะบริษัทเลือกเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นเรียลดีมานด์ ช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้จึงมีรายได้เติบโตในระดับที่น่าพึงพอใจ” นายพีระพงศ์ กล่าว

สำหรับช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 นั้น บริษัทยังมองเห็นสัญญาณการเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง หลังจากการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา มติผู้ถือหุ้นอนุมัติให้บริษัทดำเนินการเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด ส่งผลให้บริษัทจะมียอดแบ็กล็อกเพิ่มขึ้นทะลุ 2.5 หมื่นล้านบาท สูงเป็นระดับท็อปไฟว์ของผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทันที

ขณะเดียวกัน ภายหลังจากการได้ พราวด์ เรสซิเดนซ์ มา ทำให้บริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ที่จะทยอยรับรู้ภายในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้อีกราว 7,000 ล้านบาท เมื่อผนวกรวมกับปัจจัยอื่นๆ แล้ว จึงมั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้ตามเป้าที่ระดับ 9,000 ล้านบาท

ปัจจุบัน บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Project Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมมาแล้วประมาณ 38 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 36,000 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร