Retail Market Monitor (20 ก.ค.60)

Retail Market Monitor (20 ก.ค.60)

ติดตามงบ 5 ธนาคารใหญ่และการประชุม BOJ และ ECB

เราคาดตลาดหุ้นไทยมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1570-1590 หากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 ของหุ้นธนาคาร 5 แห่งที่จะประกาศในนี้ ทั้ง BBL, SCB, KBANK, KTB และ BAY ไม่ได้ผิดคาด ทั้งนี้เรามองตลาดหุ้นของตลาดเกิดใหม่ (Emerging market: EM) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวเด่นกว่าตลาดพัฒนาแล้วในระยะสั้น โดยเฉพาะสหรัฐฯ จากการผลักดันกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่แทนโอบามาร์แคร์ รวมถึงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น รวมทั้งการปฏิรูปภาษีล่าช้า ขณะที่ตลาดฝั่งเอเซียอาจได้อานิสงค์จากการที่จีนจะปฏิรูปวิสาหกิจ (SOE) ซึ่งการควบรวม (M&A) คาดจะเพิ่มความโปร่งใสและดึงดูดเม็ดเงินเข้าสู่ฝั่งเอเชีย ซึ่งทำให้ตลาดไทยน่าจะได้อานิสงค์ทางอ้อม

ทั้งนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการเสี่ยงซื้อหุ้นในกลุ่มที่ PER สูง โดยเฉพาะร.พ.หลัก แต่สามารถเลือกร.พ.ในประเทศซึ่งผลการดำเนินงานเข้าสู่ high season ในช่วงไตรมาส 3/60 อาทิ BCH, CHG ขณะที่หุ้นที่มีแนวโน้มกำไรเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งโดยเชิงโครงสร้างหรือมีโมเมนตัมของกำไรที่เพิ่มขึ้น จะโดดเด่นกว่าตลาด เรามองหาจังหวะทยอยสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร บันเทิง โรงแรม และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ ได้แก่ SCB, KBANK, MONO, ERW, MINT, TK*, TSR, AMANAH, GCAP*, SIMAT การเก็งกำไรเลือกหุ้นที่ยัง Laggard และตั้งจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง // หุ้นแนะนำ BANPU, BCH, BCP //เก็งกำไร TK*, TSR

ประเด็นการลงทุน

โภคภัณฑ์ – น้ำมันปรับบวกขึ้น หลัง EIA เปิดเผยสต็อคน้ำมันสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าคาด โลหะทรงตัว สินค้าเกษตรที่ปรับขึ้นมากกว่า 2% ได้แก่ ราคายาง TOCOM +2.55%, น้ำตาล +2.48%

ปรับลดเป้าผลิตรถยนต์ - ส.อ.ท. เตรียมหารือพิจารณาปรับเป้ายอดผลิตรถยนต์ปีนี้จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้รวม 2 ล้านคัน เหลือ 1.9 ล้านคัน เนื่องจากการส่งออกลดลงต่อเนื่องคาดว่าทั้งปีเหลือ 1.1 ล้านคัน จากเป้าหมายเดิม 1.2 ล้านคัน เป็นผลจากตลาดหลักปรับลดลง โดยเฉพาะตลาดตะวันออกกลาง เดือน มิ.ย. ปรับลดลงถึง 47.5% เพราะเศรษฐกิจในประเทศกลุ่มดังกล่าวชะลอตัว

ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมลด - ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย. 2560 อยู่ที่ระดับ 84.7 ลดลงอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 3 เดือน เนื่องจากผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อกำลังซื้อภายในประเทศ จากการระมัดระวังการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน ประกอบกับอยู่ในช่วงฤดูฝน ขณะเดียวกันผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560

คลังดันศก.รากหญ้าฟื้นตัว - คลังมั่นใจเศรษฐกิจรากหญ้าขยายตัวได้ดี จากมาตรการอัดฉีดเงินผ่านสินเชื่อแบงก์และเงินงบประมาณ 3.8 แสนล้านบาท เตรียมปรับประมาณเศรษฐกิจทั้งปีเพิ่ม

บาทแข็งกดกำไรบจ. - ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วล่าสุดที่ 33.66 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติสูงสุดรอบ 25 เดือน ค่าเงินบาทปัจจุบันแข็งค่าเกินสมมติฐานที่หลายสำนักวิจัยได้ประเมินไว้ว่า ปีนี้จะอยู่ที่ 35 บาท/ดอลลาร์

ฟิทช์เตือนรับมือต้นทุนพุ่ง - ฟิทช์ฯ เตือนบริษัทที่ออกหุ้นกู้เผชิญต้นทุนทางการเงินขึ้น หลังนักลงทุนระมัดระวังและเข้มเรื่องคุณภาพเครดิต

ประเด็นติดตาม: 20 ก.ค. – ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นและยุโรป / 24 ก.ค. – ประชุมย่อยโอเปค

แนวรับ 1570/แนวต้าน : 1580 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH)

หุ้นแนะนำ

• BANPU (24) : ราคาสะท้อนข่าวร้ายแล้ว ขณะที่คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 ฟื้นตัวจากหน่วยผลิตที่หงสากลับมาผลิตได้เต็มที่ ขณะที่ธุรกิจถ่านหินล็อคราคาขายระยะยาวแล้ว 70%

• BCH (14.50) : ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 เป็น low season ก่อนเข้าสู่ high season ไตรมาส 3 ซึ่งได้อานิสงค์จากการเข้าสู่หน้าฝนซึ่งผู้ป่วยในประเทศจะมากกว่าปกติ และเกษมราษฎร์เป็นตัวเลือกที่ดีในภาวะที่ค่ารักษาของร.พ.ระดับบนแพง

• BCP (40) : ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงบ้างจาก stockloss อย่างไรก็ตามครึ่งปีหลังแนวโน้มจะดีกว่าปกติ เนื่องจากค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับสูงจากราคาน้ำมันที่ลดลง และกำไรบริษัทลูกที่คาดจะปรับดีขึ้น โดยเฉพาะหลังการเข้าซื้อกิจการในอินโดนีเซียของ BCPG

• ประเด็นลงทุน: TK* (ซื้อขายที่เพียง PER 11 เท่า ปันผล 4.3% ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการบริโภคและราคาสินค้าเกษตร บริษัทปรับเป้าการปล่อยกู้ขึ้นเป็น 10% จาก 5%) / TSR (ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 คาดฟื้นตัวจากหนี้เสียผ่านจุดสูงสุด และม๊โอกาสเติโตจากการจำนำทะเบียน)