หุ้น 'บ้านปู' นิวโลว์8เดือน ตื่นจีนลดนำเข้า

หุ้น 'บ้านปู' นิวโลว์8เดือน ตื่นจีนลดนำเข้า

ตื่นจีนลดนำเข้าถ่านหิน กดหุ้นบ้านปู "นิวโลว์" รอบ 8เดือน

กรุงเทพธุรกิจได้สำรวจการเคลื่อนไหวหุ้นบ้านปู (BANPU) พบว่า ล่าสุดมีแรงเทขายออกมาอย่างหนัก จนราคาแตะระดับต่ำสุดที่ 16.50 บาท และเป็นราคานิวโลว์ในรอบ 8 เดือน สาเหตุที่ปรับตัวลดลงแรงนั้นน่าจะเกิดจากทางการจีน มีแผนจะระงับการนำเข้าถ่านหินบางแห่ง (ไม่ระบุว่าแหล่งใด) เริ่มมีผลตั้งแต่ 1ก.ค.2560เป็นต้นไป ทำให้เกิดแพร่สะพัดไปในห้องไลน์กรุ๊ปของนักลงทุน

รวมทั้งมีการยืนยันว่า บริษัทBANPU ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า การระงับการนำเข้าถ่านหินเป็นแนวทางของจีนที่พยายามจะลด Oversupply ภายในประเทศ ให้หันมาใช้ถ่านในประเทศมากขึ้น โดยน่าจะเพ่งเล็งเฉพาะการนำเข้าถ่านหินคุณภาพต่ำในท่าเรือเล็กๆ เท่านั้น

ส่วนเหมืองบ้านปูในอินโดนีเซียมีส่งออกไปจีนประมาณ 6 ล้านตัน หรือคิดเป็นประมาณ 22-25% ของกำลังการผลิตอินโดนีเซีย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นถ่านหินคุณภาพดี ขณะที่มีแหล่ง Jorong (0.8m tonnes per year) และ Embalut (0.8m tonnes per year) ที่ค่าความร้อนต่ำกว่า 6,000 kcal/kg. หรือคิดเป็น 5.9% ของ target sale ของเหมืองของ Banpu ในอินโดนีเซีย ซึ่งเอามา Blend ขายอยู่แล้ว โดยรวมคาดว่า ไม่มีผลต่อผลการดำเนินงานบริษัทบ้านปู ซึ่งการปรับลงมาของราคาหุ้น จึงน่าจะเป็นเพียง Sentiment เชิงลบระยะสั้นเท่านั้น

หากข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริง นักลงทุนไม่ควรตื่นตระหนก และหันกลับมาดูปัจจัยพื้นฐานซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ยังมีมุมมองที่ดี โดยเฉพาะไตรมาส2ปีนี้กำไรจะแตะสูงสุดเพราะราคาถ่านหินที่จำหน่าย มีการล็อกราคาสูงไว้แล้ว

บล.บัวหลวง ระบุว่าการผลิตถ่านหินที่เพิ่มขึ้นในจีนมีแนวโน้ม ส่งผลให้อุปสงค์และราคาตลาดถ่านหินอ่อนตัวลง เพื่อให้สอดคล้องกับสมมุติฐานราคาถ่านหินระยะยาวของทาง Morgan Stanley ฝ่ายวิจัยได้ทำการปรับลดคาดการณ์ประมาณการกำไรของ BANPU ระยะยาวลง 15% หากมองปีนี้กำไรดูเหมือนจะแตะจุดสูงสุดในไตรมาส 2ปี2560 และคาดว่าจะเข้าสู่ช่วงขาลงช่วงครึ่งปีหลัง 2560

โดยกำไรสุทธิไตรมาส 2ปี2560 ของ BANPU มีแนวโน้มเพิ่มทั้งจากงวดเดียวกันของปีก่อนและไตรมาส1ปี2560 โดยราคาขายถ่านหินไตรมาสที่บริษัทล็อกราคาสูงก่อนหน้านี้และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจ ITMG (เหมืองในอินโดนีเซีย) น่าจะเป็นปัจจัยหนุนกำไรให้เติบโตจากไตรมาส1ปี2560 ขณะที่ BPP(บริษัทไฟฟ้า) จะรับรู้กำไรเต็มไตรมาสจากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ครบ140 เมกะวัตต์ในไตรมาส 2/2560 เป็นไตรมาสแรก หากเทียบกับปีที่แล้วราคาขายถ่านหินมีแนวโน้มที่ปรับเพิ่มขึ้น และกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าใหม่ น่าจะหนุนกำไรหลังหักภาษีให้ขยายตัวจากไตรมาส2/2559 อย่างมีนัยสำคัญ

ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรครึ่งหลังปีนี้จะลดลงจากครึ่งปีแรก เนื่องจากราคาถ่าน NEWC ปรับตัวลดลงจากในเดือนธ.ค.2559-ม.ค. 2560 ซึ่งบริษัทเจรจาราคาถ่านหินที่จะส่งมอบไตรมาส 2ปี2560 นั่นหมายความว่า ราคาขายครึ่งหลังปีนี้จะปรับตัวลงเช่นเดียวกัน และปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งในไทยและจีนน่าจะปรับตัวลดลงตามฤดูกาล ขณะที่BLCP (โรงไฟฟ้าถ่านหิน IPP ขนาด 1,320 เมกกะวัตต์ บริษัทถือหุ้นอยู่ 50%) มีกำหนดการปรับปรุงซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติการณ์