สืบลึกตรวจ70วัดทั่วปท. คดีเงินทอนฉาว แฉโยกย้ายเงินทุจริต

สืบลึกตรวจ70วัดทั่วปท. คดีเงินทอนฉาว แฉโยกย้ายเงินทุจริต

ผู้การ ปปป. สืบลึกตรวจ70วัดทั่วประเทศ คดีเงินทอนฉาว แฉโยกย้ายเงินทุจริต เร่งสืบเส้นทางการเงิน

จากกรณี กองบังคับการตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นำกำลังเข้าตรวจค้นพร้อมกัน 10 จุดในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ตามยุทธการปราบโกงวัดเพื่อจับกุมผู้เกี่ยวข้องเครือข่ายทุจริตเงินอุดหนุนงบประมาณบูรณะและปฏิสังขรณ์วัดของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หลังตรวจพบว่ามีวัดที่ร่วมทุจริต 12 แห่ง สร้างความเสียหายแก่รัฐสูงถึง 60.5 ล้านบาท นั้น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. ที่ห้องประชุม กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ป.ป.ป.) ชั้น 4 ศูนย์ราชการอาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. โดยมี พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ป.ป.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.จักษ์ เพ็งสาธร รอง ผบก.ป.ป.ป. และข้าราชการจากหลายหน่วยงาน อาทิ ปปง. สตง. บก.ปอท. บก.ป. และบก.ปอศ. เพื่อชุมประหารือถึงคดีเงินทอนวัดต่างๆทั่วประเทศ

ทั้งนี้ พล.ต.ต.กมล เผยว่า ก่อนหน้านี้ ปปป.ได้สืบสวน และสรุปคดีแรกที่ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ สำนักพระพุทธศาสนา(พศ.) ในคดีเงินทอนวัด และส่งสำนวนไปให้ ปปช.ไต่สวนแล้ว วันนี้เชิญเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมบูรณาการความคืบหน้ากลุ่มผู้ต้องหากลุ่มใหม่ พร้อมประสาน ปปง.ให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน และเส้นทางการเงินผู้ต้องหา สอบสวนถึงใครก็ดำเนินคดีข้อหาฟอกเงินหมด เนื่องจากพบว่ามีการนำเงินที่ทุจริตโยกย้ายถ่ายเทไปบัญชีผู้อื่น หรือนำไปซื้อทรัพย์สินอื่นๆแทน จึงต้องบูรณาการหลายหน่วยงาน

“ปปป.ตรวจสอบวัดทั้งหมดทั่วประเทศขณะนี้ 60-70 วัด ส่วนจะมีกี่วัด และกี่คนที่พบข้อมูลการทุจริต ยังตอบไม่ได้อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนอยู่ แต่ เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบวัดทั้งประเทศแน่นอน หลังจากนั้นจะส่งให้ ปปช.ดำเนินการชี้มูลความผิด ส่วนกรณีที่ ปปช.ดำเนินการตรวจสอบวัดทางภาคใต้ และวัดที่จ.ชุมพรไปแล้ว ทางปปป.จะไม่ก้าวล่วง เนื่องจากทาง ปปช.ดำเนินการไปแล้ว หลังจากนี้จะดำเนินสืบสวนขยายผลต่อไป” พล.ต.ต.กมล กล่าว