ตม.นราธิวาสนำเทคโนโลยี รองรับมุสลิมข้ามแดนฉลองรายอ

ตม.นราธิวาสนำเทคโนโลยี รองรับมุสลิมข้ามแดนฉลองรายอ

สำหรับบรรยากาศใกล้ถึงเทศกาล ฮารีรายออีดิลฟิตรี ของพี่น้องชาวไทยมุสลิม ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 25 หรือ 26 มิ.ย. 2560 ที่จะถึงนี้ จากการตระเวนตรวจสอบ ที่บริเวณด่านพรมแดน อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ซึ่งอยู่ตรงข้ามเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย

พบว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.อ.นพดล รักชาติ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมือง จ.นราธิวาส ได้เดินตรวจความเรียบร้อยการให้บริการของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ที่นั่งให้บริการตามจุดต่างๆ หลังจากที่ได้มีการติดตั้งเครื่องตรวจหนังสือเดินทาง ระบบ PIBICS จำนวน 13 เครื่อง และเครื่องระบบฐานข้อมูลลายพิมพ์นิ้วมืออัตโนมัติ E FINGERPRINT จำนวน 10 เครื่อง เป็นการเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกชาวไทยมุสลิมที่มีภูมิลำเนาส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เดินทางข้ามแดนไปขายแรงงานยังเมืองต่างๆของรัฐกลันตัน ที่ในทุกปีจะข้ามแดนเพื่อมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลรายออีดิลฟิตรี กันเป็นจำนวนมากจนแออัด เนื่องจากต้องยืนเข้าคิวเพื่อประทับตราและตรวจเช็คประวัติ ซึ่งกว่าจะแล้วเสร็จต้องใช้เวลานาน จนบางคนไม่สามารถที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาทัน 

แต่ พ.ต.อ.นพดล รักชาติ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมือง ต้องพบกับความผิดหวัง ที่บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปค้าแรงงานยังเมืองต่างๆของรัฐกลันตัน เดินทางข้ามแดนมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลฮารีรายออีดิลฟิตรีบางตา ซึ่งแตกต่างจากทุกๆปีที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง และจากการสอบถามพี่น้องชาวไทยมุสลิมที่เดินทางกลับมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลรายออีดิลฟิตรีในปีนี้ ทราบว่า เนื่องจากเงินสกุลริงกิตประเทศมาเลเซียตกต่ำอย่างหนัก เมื่อเปรียบเทียบกับเงินบาทไทย 10 ริงกิต เท่ากับ 79.36 บาท ซึ่ง 100 บาทเงินหายไป 21.64 บาท จึงเป็นเหตุผลทำให้ปีนี้พี่น้องชาวไทยมุสลิม จึงเดินทางกลับมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลรายออีดิลฟิตรีปีนี้น้อยมาก ส่วนใหญ่ที่เดินทางไปค้าแรงงานในประเทศมาเลเซียจะเดินทางไปแบบเป็นกลุ่มก้อน เมื่อผู้ใดกลับมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลรายออีดิลฟิตรี ก็จะฝากเงินกลับมาให้กับเครือญาติ เพื่อได้นำเงินไปใช้จ่ายในส่วนของการเฉลิมฉลองแทน เพราะหากกลับมาด้วยตนเองก็ต้องมีค่าใช้จ่ายสูง เมื่อนำเงินริงกิตมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทย ซึ่งส่วนใหญ่เสียดายเงินในจุดนี้โดยเปล่าประโยชน์และใช่เหตุ แต่รับรองว่าในอีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้าเมื่อถึงเทศกาลรายอฮัจญี หรือ รายอใหญ่ ทุกคนที่เดินทางไปค้าแรงงานยังเมืองต่างๆ ของรัฐกลันตัน จะเดินทางกลับมาร่วมเฉลิมฉลองกันเป็นจำนวนมากเหมือนในทุกๆปี แม้ว่าเงินสกุลริงกิต ประเทศมาเลเซีย จะตกต่ำอีกก็ตาม