วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (20 มิ.ย.60)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (20 มิ.ย.60)

ราคาน้ำมันดิบปรับลดแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จากความกังวลปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาดเพิ่มขึ้น

- ราคาน้ำมันดิบลดลงราว 50 เซนต์ต่อบาร์เรล หลังปริมาณน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องจากทางสหรัฐ ลิเบีย และไนจีเรีย ส่งผลให้นักลงทุนยังคงกังวลต่อสถานการณ์น้ำมันดิบล้นตลาด

- ถึงแม้ว่าโอเปคจะออกมาประกาศการบรรลุข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตต่อไปถึงเดือน มี.ค. 61 แต่ปริมาณน้ำมันดิบที่ผลิตจากทางฝั่งโอเปคยังคงอยู่ระดับสูง โดยโอเปครายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบแตะระดับ 32.14 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบทางฝั่งลิเบียและไนจีเรียที่ได้รับข้อยกเว้นการปรับลดกำลังการผลิต

- ล่าสุดลิเบียเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นมาระดับ 885,000 บาร์เรลต่อวัน หลังลิเบียประกาศว่าจะยกเลิกการปิดกั้นการผลิต 160,000 บาร์เรลต่อวัน จากการหยุดชะงักเกือบสองปีเนื่องจากเกิดข้อพิพาทกับบริษัทพลังงานของเยอรมัน โดยลิเบียตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้จนแตะระดับ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในเดือน ก.ค.

- นักวิเคราะห์ยังกังวลต่อการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของปริมาณน้ำมันในสหรัฐ หลังการขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐ ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกว่า 22 สัปดาห์ติดต่อกัน โดย Baker Hughes รายงาน จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 19 มิ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 6 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 747 แท่น

- นอกจากนี้ความต้องการใช้น้ำมันดิบในเอเชียยังมีความไม่แน่นอน เห็นได้จากญี่ปุ่นและอินเดียรายงานปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบในเดือน พ.ค. 60 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปรับลดลงราวร้อยละ 13.5 และ 4.2 ตามลำดับ


ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ปรับลดลง ประกอบกับได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์จากปากีสถานและอินเดีย

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยยังคงมีแรงหนุนของอุปสงค์จากอินเดีย และอินโดนิเซีย นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงคโปร์ที่ปรับลดลงช่วยสนันสนุนตลาด


ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

        ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 43-48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
     
        ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 45-50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

- ภาวะอุปทานน้ำมันดิบส่วนเกินยังคงส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบต่อเนื่อง แม้ว่าโอเปคจะสามารถตกลงยืดระยะเวลาข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน หลังกำลังการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 835,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Sharara เปิดดำเนินการ และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในไนจีเรียที่เพิ่มขึ้น หลังน้ำมันดิบ Forcados กำลังการผลิตราว 200,000-250,000 บาร์เรลต่อวัน กลับมาดำเนินการส่งออก

- ความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปในสหรัฐ อ่อนตัวลงในช่วงฤดูกาลขับขี่ของสหรัฐ โดยอุปสงค์น้ำมันเบนซินในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลงกว่าร้อยละ 3.8 จากปีก่อนหน้า ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐ สิ้นสุด ณ วันที่ 9 มิ.ย. 2560 เพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 242.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีประมาณ 19.4 ล้านบาร์เรล

- ปริมาณการน้ำมันดิบของสหรัฐ คาดจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐ เพิ่มการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่อง โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด 16 มิ.ย. 2560 ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 22 สัปดาห์ติดต่อกันมาสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 747 แท่น ส่งผลให้สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดในปี 2560 ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ คาดจะปรับเพิ่มขึ้น 430,000 บาร์เรลต่อวันจากปีก่อนหน้า และจะเติบโตขึ้นต่อเนื่องกว่า 780,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2561

--------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

โทร.02-797-2999