สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 5 - 9 มิถุนายน 2560

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 5 - 9 มิถุนายน 2560

“เงินบาทอ่อนค่ากลับมาปลายสัปดาห์ ขณะที่ หุ้นไทยทรงตัว”

Foreign Exchange Market

- เงินบาทอ่อนค่ากลับมาเล็กน้อยในช่วงปลายสัปดาห์ หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 23 เดือนที่ 33.95 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ท่ามกลางแรงกดดันของเงินดอลลาร์ฯ จากประเด็นทางการเมืองและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบที่อ่อนค่ากว่าระดับ 34.00 บาทต่อดอลาร์ฯ อีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ สอดคล้องกับทิศทางการฟื้นตัวขึ้นของเงินดอลลาร์ฯ ขณะที่ นักลงทุนทยอยปรับโพสิชันก่อนการประชุม FOMC ในวันที่ 13-14 มิ.ย. นี้

- สำหรับในวันศุกร์ (9 มิ.ย.) เงินบาทอยู่ที่ 34.07 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 34.17 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (2 มิ.ย.)


สำหรับสัปดาห์ถัดไป (12-16 มิ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.90-34.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องติดตามผลการประชุมนโยบายการเงิน ประมาณการเศรษฐกิจ และ dot plot ชุดใหม่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนมิ.ย. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย. นอกจากนี้ ตลาดน่าจะรอติดตามประเด็นต่อเนื่องหลังสถานการณ์การเลือกตั้งในอังกฤษ และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน

Stock Market

- ดัชนีหุ้นไทยทรงตัว ขณะที่ตลาดรอปัจจัยใหม่มากระตุ้น โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,566.65 ลดลง 0.06% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 12.68% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 43,344.75 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 564.28 จุด ลดลง 0.97% จากสัปดาห์ก่อน

- ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนรอประเมินปัจจัยสำคัญของยุโรปและสหรัฐฯ โดยเฉพาะผลการเลือกตั้งของอังกฤษ และคำให้การของนายเจมส์ โคมีย์ ต่อประเด็นที่เกี่ยวกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี SET Index เผชิญแรงกดดันมากขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์จากแรงเทขายหุ้นเพื่อปรับพอร์ตของนักลงทุนในช่วงก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ สัปดาห์ถัดไป


สำหรับสัปดาห์ถัดไป (12-16 มิ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,555 และ 1,545 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,575 และ 1,590 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมธนาคารกลางของสหรัฐฯ (เฟด) และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจของเฟด ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และเครื่องชี้อสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ อาทิ ข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนและจีน