ออนิกซ์ฯเท 3.4พันล้านพลิกทำเลทองพัทยา

ออนิกซ์ฯเท 3.4พันล้านพลิกทำเลทองพัทยา

ออนิกซ์ฯ พลิกฟื้นทำเลทองพัทยาเหนือ ทุ่ม 3,400 ล้านบาท ผุด 3 โรงแรมจับตลาดทุกเซกเมนต์ เผยลงทุนสร้างโอโซ่ พัทยา ใหม่เจาะนักท่องเที่ยวระดับกลาง รุกรีโนเวทใหญ่แบรนด์อมารี พร้อมผุดโอเชียน สวีท เจาะกลุ่มไฮเอนด์

นายดักลาส มาร์เทล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป กล่าวว่า เตรียมเปิดโรงแรมใหม่โดยใช้แบรนด์โอโซ่ ตั้งอยู่ติดกับที่ตั้งปัจจุบันของโอเชี่ยน ทาวเวอร์ ของโรงแรมอมารี พัทยา ในปัจจุบัน โดยวางแผนเป็นโครงการขนาด 406 ห้อง ซึ่งจะหนึ่งในการปรับปรุงโครงการในโซนพัทยาครั้งใหญ่ ที่ใช้งบลงทุนรวมกว่า 100 ล้านดอลลาร์ (ราว 3,400 ล้านบาท) โดยนอกจากการสร้างโรงแรมโอโซ่แล้ว จะเปิดตัวโรงแรมอมารี พัทยา ที่ผ่านการปรับโฉมใหม่ครั้งใหญ่ทั้งหมด และปรับโซนของอมารี พัทยา การ์เด้น วิง เดิม มาเป็นแบรนด์ อมารี พัทยา โอเชียน สวีท ประกอบด้วยห้องพักแบบสวีททั้งหมด 49 ห้องด้วย

วางกำหนดโรงแรม 3 แห่งดังกล่าว รวมกว่า 752 ห้องจะพัฒนาแล้วเสร็จต้นปี 2562 โดยมีข้อได้เปรียบเรื่องสถานที่ตั้งในทำเลที่ดีของพัทยาเหนือที่ปักหลักเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 45 ปี และถือเป็นโรงแรมที่เป็นเรือธงแห่งหนึ่งของกลุ่มออนิกซ์ ขณะนี้มีการพัฒนาธุรกิจต่างๆ ใกล้เคียงล้อมรอบ ได้แก่ โครงการเทอร์มินัล 21 พัทยา, ศูนย์การค้าแห่งใหม่ที่สามารถเดินถึงในระยะเวลา 5 นาที เป็นต้น

นอกจากนั้น การเปิดบริการใน 2 ส่วนใหม่ คือ โอโซ่ และอมารี โอเชียน สวีท จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งชาวไทยและตลาดเอเชียที่เปลี่ยนแปลงได้ด้วย เนื่องจากโอโซ่ พัทยา มีจุดเด่นในการเจาะตลาดระดับกลาง ขณะที่ พัทยา โอเชี่ยน สวีท นำเสนอพื้นที่ที่กว้างขวาง มีห้องสวีทซึ่งสามารถเชื่อมต่อกันได้ เหมาะสำหรับครอบครัวและกลุ่มเพื่อนที่มาท่องเที่ยวด้วยกัน มีจุดเด่นที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ทุกห้อง และแต่ละห้องจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกในรูปแบบเรสซิเดนซ์ให้บริการ อาทิ ห้องครัวพร้อมอุปกรณ์ครบครัน และระเบียงขนาดใหญ่

ปัจจุบัน ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป มีโรงแรม 42 แห่งที่เปิดให้บริการแล้ว ภายใต้ 3 แบรนด์หลักใน 8 ประเทศ โดยในปี พ.ศ. 2560 มีกำหนดเปิดให้บริการโครงการใหม่ในประเทศจีน มาเลเซีย ศรีลังกา และสปป.ลาว ขณะที่โครงการอยู่ระหว่างการพัฒนามีอีกกว่า 20 โครงการในหลายประเทศ อาทิ เวียดนาม อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย และตั้งเป้าที่จะมีโรงแรมเปิดให้บริการ 99 แห่ง ภายในปีพ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางในการก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการโรงแรมขนาดกลางที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย