‘แอลเอชแบงก์’ ลุ้นสินเชื่อปีหน้าโต10%

‘แอลเอชแบงก์’ ลุ้นสินเชื่อปีหน้าโต10%

"แอลเอชแบงก์" ลุ้นสินเชื่อปีหน้าโต10% หวังกลุ่มทุนใหม่ช่วยหนุน ลั่น “อนันต์” ลาออกไม่กระทบธุรกิจ

“แอลเอชแบงก์” หวังผู้ถือหุ้นใหม่ “ซีทีบีซีแบงก์” ช่วยขยายฐานลูกค้าไปกลุ่มธุรกิจไต้หวัน ทั้งช่วยเพิ่มโอกาสร่วมประมูลปล่อยกู้ภาครัฐ หวังสินเชื่อปีหน้าโต 10% พร้อมประเมินใน 5 ปีข้างหน้า สินทรัพย์โตเฉลี่ย 10-15% ยืนยัน “อนันต์” ลาออกไม่กระทบธุรกิจ

นางศศิธร พงศธร (ฉัตรศิริวิชัยกุล) กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า การเข้ามาถือหุ้นของ ซีทีบีซี แบงก์ คอมพานี ลิมิเต็ด จากไต้หวัน จะช่วย แอลเอชแบงก์ ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มธุรกิจไต้หวัน รวมทั้งลูกค้าสถาบัน และเพิ่มโอกาสในการร่วมปล่อยกู้โครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยคาดว่าในระยะ 5 ปีข้างหน้า(2560-2565) ธนาคารจะมีอัตราการเติบโตของสินทรัพย์เฉลี่ยปีละประมาณ 10-15% หรือเพิ่มขึ้นถึงระดับ 400,000-500,000ล้านบาท และตั้งแต่ในปี 2561จะมีสินเชื่อโตไม่ต่ำกว่า10%

ขณะที่ในปีนี้ยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 6-10% และคุมสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ไม่เกิน2% และรักษาระดับเงินสำรองหนี้เสียของธนาคาร ปัจจุบันอยู่ในระดับสูงที่ 111-115% เช่นนี้

ปัจจุบันธนาคารมีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นไตรมาสแรก อยู่ที่ 215,043 ล้านบาท เติบโต 1.4% จากสิ้นปีก่อน เป็นผลมาจากการเติบโตของสินเชื่อ 1.8% โดยมีสัดส่วนโครงสร้างสินเชื่อ Corporate 65% สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อ SMEs อยู่ที่ 19% และ 16% ตามลำดับ มีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ในระดับต่ำเพียง 1.88% ของเงินให้สินเชื่อรวม

ด้าน นายรัตน์ พานิชพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ แอลเอชแบงก์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ กล่าวว่า เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนและเสริมศักยภาพในการขยายธุรกิจ ทาง แอลเอชแบงก์ จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 7,544,961,342 หุ้น คิดเป็น 35.617% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท เพื่อเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด(พี/พี) ให้แก่ ซีทีบีซีแบงก์ ในราคาหุ้นละ 2.20 บาท คิดเป็นมูลค่าประมาณ 16,599 ล้านบาท

ภายหลังการเพิ่มทุนจะทำให้ ซีทีบีซีแบงก์ เข้ามาถือหุ้นของบริษัทในสัดส่วน 35.617% ซึ่งเป็นสัดส่วนเท่ากับการถือหุ้นรวมกันของ บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) และ บมจ. ควอลิตี้ เฮ้าส์ (QH) ที่มีสัดส่วนการถือหุ้นเท่ากับ 21.879% และ 13.738% ตามลำดับ

ทั้งนี้เมื่อ ซีทีบีซีแบงก์ นำเงินมาเพิ่มทุน บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนมาเพิ่มทุนในธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ซึ่งจะทำให้ฐานเงินทุนของ แอลเอชแบงก์ โตกว่าเท่าตัว หรือเท่ากับประมาณ 34,000 ล้านบาท และมีอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 หรือ Common Equity Tier 1 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 20%จากปัจจุบัน 10.4% ซึ่งเป็นอัตราเงินกองทุนที่มีความแข็งแกร่ง

ส่วนการลาออกของนายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการ แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป ว่า นายอนันต์ไม่ได้ถือหุ้นแอล เอช ไฟแนนซ์เชียล ในนามส่วนตัว มีเพียงถือหุ้นบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 30 %

อย่างไรก็ตามนายอนันต์มีเพียงการถือหุ้นโดยอ้อม ผ่านบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) และบริษัท คลอลิตี้ เฮ้าส์ (QH) ในสัดส่วน12% และหาก ซีทีบีซีแบงก์ เข้ามา จะยิ่งทำให้สัดส่วนการถือหุ้นโดยอ้อมของคุณอนันต์ลดลงเหลือ9%เท่านั้น

นายรัตน์ กล่าวว่า ข่าวของนายอนันต์ ทาง ซีทีบีซีแบงก์ ได้รับทราบแล้วและไม่ได้ติดปัญหาการเข้ามาร่วมทุนในครั้งนี้ เนื่องจากการลาออกเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธนาคาร นายอนันต์มาประชุมในฐานะกรรมการ และประธานกรรมการธนาคารเดือนละครั้ง อีกทั้ง ผู้บริหารของธนาคารเป็นมืออาชีพทั้งหมด ไม่มีผู้บริหารคนใดนามสกุลอัศวโภคิน

นอกจากนี้ การดำเนินธุรกิจของธนาคารอยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากธปท. คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือก.ล.ต. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.