สปพ.สนธิกำลังพรึ่บ200นาย บุกค้นเป้าหมาย9จุดทั่วกรุง

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผบก.สปพ.(191) พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.ทท. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บก.สปพ. ชุดปฏิบัติการพิเศษอรินทราช 26 ชุดปฏิบัติการพิเศษสยบไพรี บช.ปส. เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. รวมกว่า 200 นาย ปล่อยแถวปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่กวาดล้างอาชญากรรม ภายในแฟลตดินแดง โดยปูพรมตรวจค้น 4 จุด

ประกอบไปด้วย แฟลต 29 ถึงแฟลต 32 รวมทั้งสิ้น 224 ห้อง นอกจากนี้ได้แบ่งกำลังอีกชุดเข้าตรวจค้นเป้าหมายในเขตพื้นที่ มีนบุรี และ สมุทรปราการ รวม 9 จุด

สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการระดมกวาดล้างป้องปรามกดดันอาชญากรรมทุกรูปแบบ เพื่อลดความเดือนร้อนของประชาชน ให้เกิดความพึงพอใจ เป็นการกระทำอย่างต่อเนื่องหลังจาก ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ผ่านสายด่วน 191 ถือเป็นการเฝ้าระวังป้องกันเหตุร้ายต่างๆ สร้างความอุ่นใจให้กับประชาชน

ต่อมา เมื่อเวลา 10.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก. ทท. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจ และพ.ต.ท.คณิต กลิ่นศรีสุข รอง ผกก.กก.ต่อต้านการก่อการร้าย และเจ้าหน้าที่ทหารม.1พัน1 รอ.(พัน.ซบร.ฯ) ร่วมกันแถลงผลปิดล้อมตรวจค้นกวาดล้างอาชญากรรม พื้นที่เป้าหมาย 9 จุดทั่วกรุงเทพฯ พบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน พร้อมจับกุมผู้ต้องหาเสพยาเสพติดหลายคน

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ผลจากการเข้าตรวจค้นภายในแฟลตดินแดงไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ได้จับกุมผู้ต้องหาเสพยาเสพติดจำนวน 2 ราย ซึ่งจะทำประวัติและส่งตัวไปทำการบำบัด อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายย่านมีนบุรี และหนองจอก ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาอีกจำนวนหนึ่ง และตรวจยึดกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. โดยเป็นกระสุนปืนที่ใช้สำหรับอาวุธปืนเอ็ม16 จำนวน 1 นัด ทางเจ้าหน้าที่ทหารได้นำไปตรวจสอบหาแหล่งที่มา นอกจากนี้ได้ขยายผลจากการขายอาวุธปืนผ่านทางเฟซบุ๊กโดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ซื้ออาวุธปืนบีบีกันดัดแปลง พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 30 นัด ซึ่งจับกุมได้ที่บ้านพักย่านซ.สุขุมวิท 93

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่าทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมกวาดร้างจนทำให้อาวุธปืนมีจำนวนลดน้อยลง ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันทางกองบังคับการปฎิบัติการพิเศษและสายตรวจ 191 ได้เพิ่มกำลังรถสายตรวจเพิ่มมากขึ้น เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย ในแหล่งชุมชน สถานที่ท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในความปลอดภัยอีกด้วย