ได้เค้าลาง 'มือวางบึ้ม' รพ.พระมงกุฎฯ ลุ้นเทียบข้อมูลชุดสืบฯ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) - เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 24 พฤษภาคม 2560 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านความมั่นคง (รองผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า โดยมี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ10) พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รองผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี รองผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลางสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการสันติบาล 4 พ.ต.อ.กำธร อุ่นเจริญ ผกก.หน่วยตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิด และชุดสืบสวนสอบสวน ร่วมประชุมนานกว่า 2ชั่วโมง

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า การสืบสวนสอบสวนจนถึงขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก และน่าพอใจ ส่วนกรณีที่มีรายงานว่า ทหารสามารถคุมตัวผู้ต้องสงสัยวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าได้แล้วนั้น ยืนยันว่า ขณะนี้ในส่วนการสืบสวนสอบสวนของตำรวจยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าว เรื่องนี้ต้องรอทางทหารที่เป็นผู้ดูแลด้านความมั่นคงหลักสั่งการลงมา ตำรวจยังไม่ประสานกับทหารขอข้อมูล เนื่องจากตำรวจเป็นหน่วยความมั่นคงรองจากทหาร ไม่ก้าวก่ายกัน ตำรวจดูด้านสำนวนคดี รวบรวมพยานหลักฐานเท่านั้น ขณะนี้ในส่วนของตำรวจตนยังไม่ได้รับรายงานว่าคุมตัวใคร ทหารก็ยังไม่ประสานไปให้สอบสวน หรือรับตัวใครแต่อย่างใด

รองผบ.ตร.กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าของคดี ขณะนี้มีการสอบพยานหลายปากแล้ว รวมทั้ง ชาย 3 คนที่ปรากฏในภาพ พร้อมแจกันระเบิด โดยทั้ง 3 ได้รับบาดเจ็บ สอบปากคำแล้ว เชื่อว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการวางระเบิด ในการสืบสวนก็ต้องดูว่าถ้าคนวางระเบิดคงไม่ไปนั่งตรงนั้น

ทั้งนี้ได้นำพยานที่ได้รับบาดเจ็บ มาสอบสวน เพื่อทำการสเก็ตช์ภาพบุคคลต้องสงสัย ได้ภาพออกมาแล้ว 1 ภาพ 1 บุคคล อยู่ระหว่างการนำภาพที่ได้ ไปเปรียบเทียบกับพยานหลักฐานฐานอื่นๆ ที่ได้จากการสืบสวน หากสอดคล้องตรงกัน จะนำไปขอศาลอนุมัติหมายจับต่อไป โดยยอมรับว่าคดีนี้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ถึงทางตันแน่นอน การตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็ได้ประโยชน์ พอได้ข้อมูล อยู่ระหว่างการดำเนินการ แต่ขอยังไม่เปิดเผยรายละเอียดถึงบุคคลต้องสงสัย อยู่ระหว่างนำข้อมูลที่ได้ไปตรวจสอบฐานข้อมูลกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่เป็นไปได้ทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามถึง การตรวจสอบจดหมายที่ข่มขู่โรงพยาบาลในละแวกใกล้เคียง พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า จดหมายดังกล่าวเป็นการเตือนว่าจะมีเหตุ ไปถึงโรงพยาบาล 3 แห่ง ตรวจสอบแล้วพบว่า มีการส่งจากในพื้นที่ กทม. ด้วยการหย่อนตู้ไปรษณีย์ในพื้นที่ เขตสามเสน จตุจักร ปทุมวัน ซึ่งพบว่ามีจำนวนตู้ไปรษณีย์กว่า 400 ตู้ก็ต้องไล่ตรวจสอบ จดหมายทั้งหมดใส่ซองสีชมพู เขียนด้วยลายมือ แต่ละฉบับลายมือไม่เหมือนกันเลย ขณะนี้ทางกองพิสูจน์หลักฐาน ได้ตรวจเก็บดีเอ็นเอ จากจดหมายทุกฉบับเพื่อเชื่อมโยงถึงผู้ต้องสงสัยแล้ว ยอมรับว่าขณะนี้การสืบสวนให้น้ำหนักไปที่จดหมายเตือนนี้ด้วย ก็อาจเป็นไปได้ว่าเกี่ยวกับเหตุระเบิดที่ รพ.พระมงกุฏฯ ได้มีการนำบุคคลที่สงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับจดหมายมาสอบถามบ้างแล้ว และกำลังหาตัวคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นจนขณะนี้ยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆ ยังให้น้ำหนักทั้งเรื่องการเมือง และภาคใต้

เมื่อถามว่า มีการมองไปที่กลุ่มฮาร์ดคอร์ทางการเมือง ที่เคยเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้หรือไม่นั้นพล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถชี้ชัดกลุ่มใดได้ มองไปที่ทุกกลุ่มที่สามารถทำได้ การสืบสวนตอนนี้ย้ำว่าไม่ตัน ยังยืนยันว่าพยานหลักฐานเชื่อมโยงกับกลุ่มที่เคยก่อเหตุในกทม. เมื่อปี 2550 ที่ยังไม่รู้ตัวผู้กระทำผิด ส่วนจะมีบุคคลมีสี อดีตตำรวจหรือทหาร เกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ไม่ขอตอบ เอาเป็นว่าอยู่ระหว่างการสืบสวน ขณะนี้มีความคืบหน้า และไม่ตันอย่างแน่นอน และยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งเลย เอาฐานข้อมูลของระเบิดที่เกิดขึ้นในประเทศทั้งหมด ทั้งภาคใต้ กทม. มาศึกษา เพื่อหากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวด้วยว่า จากข่าวสาร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทั้งในประเทศ และในต่างประเทศ ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก หน่วยข่าว สันติบาล หน่วยความมั่นคง สืบสวนหาข่าวเพื่อป้องกันอย่างต่อเนื่อง และคดีนี้ก็พยายามจับคนร้ายให้ได้ ขออย่าไปพูดพาดพิงกลุ่มใดๆ ที่จะเป็นการชักศึกเข้าบ้าน ฐานะที่ตนดูแลงานด้านความมั่นคงขอยืนยันว่าประเทศไทยไม่มีภัยคุกคามจากต่างชาติ หรือกลุ่มนอกประเทศแต่อย่างใด สถานการณ์ยังปกติ