'เจ๊สุ' ดอกโหด ไกล่เกลี่ยลูกหนี้แล้ว2ราย

นายไพฑูรย์รักประเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม ได้เป็นประธานในการประชุม โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ไกล่เกลี่ยระหว่างลูกหนี้กับเจ๊สุ หรือนางสาวสพิชญ์ฌา เจ้าหนี้ดอกเบี้ยโหด

โดยในวันนี้เจ๊สุ หรือ นางสาวสุพิชญ์ฌา ได้เดินทางมาด้วยตนเองพร้อมทนาย ซึ่งวาระแรกเป็นการเจรจาไกล่เกลี่ยมูลหนี้รายของนางลัดดาวัลย์ คำบุญ และนางสุวรรณหงส์ น้อยนันตะ ที่เป็นหนี้และถูกกดดันจนเป็นเหตุให้นางสุวรรณหงส์ ผูกคอตาย สำหรับรายนี้มีนางลัดดาวัลย์เป็นผู้มาเจรจา โดยนางลัดดาวัลย์เป็นฝ่ายเสนอขอชำระหนี้ที่ตกค้างเป็นเงิน 280,000 บาท ซึ่งนางสาวสุพิชญ์ฌา อภิชัจฐ์โภคิน คู่กรณี ตกลงยินยอมรับชำระหนี้จำนวนดังกล่าวโดยไม่คิดดอกเบี้ย พร้อมยินยอมยื่นคำร้องและแถลงของดการบังคับคดีต่อสำนักงานบังคับคดีเป็นเวลา 1 ปี เนื่องจากลูกรายนี้รายนี้อยู่ระหว่างถูกเจ้าหนี้บังคับจำนองโดยนำที่ดินหลักประกันออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งหลังจากนี้นางลัดดาวัลย์จะทำเรื่องขอกู้เงิน อชก. เพื่อนำเงินมาชำระให้แก่เจ้าหนี้ต่อไป

ส่วนลูกหนี้อีกรายที่ได้รับการไกล่เกลี่ยในวันนี้คือนางพิสมัย ชินวงศ์ อยู่บ้านเลขที่85 ม.9 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม โดยเป็นหนี้บริษัทภูวษา จำกัด ซึ่งมีนางสาวสุภิชญ์ฌา เป็นกรรมการ โดยนางพิสมัยเสนอขอชำระหนี้ เป็นจำนวนเงิน 70,000 บาท ซึ่งทางบริษัทภูวษาก็ยินดีรับชำระในวงเงินดังกล่าว โดยขอคิดดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีนับจากวันที่กู้ ซึ่งในการเจรจาไกล่เกลี่ยนี้นางพิสมัย ยินยอมให้บริษัทภูวษา จำกัด ฟ้องให้ชำระหนี้ในวงเงินดังกล่าว ต่อศาลจังหวัดนครพนม เพื่อที่จำนำคำพิพากษาในเรื่องดังกล่าวไปประกอบการขอกู้ยืมเงินจากกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกร และผู้ยากจน (อชก.) โดยตกลงว่าบริษัทภูวษาจะเป็นผู้ออกค่าทนายความและค่าธรรมเนียมศาลให้แก่นางพิสมัย โดยหลังจากที่ได้รับเงินอนุมัติจาก อชก.แล้ว นำไปชำระหนี้ทางบริษัทภูวษาจึงจะปลดจำนองให้

โดยบรรยากาศในการเจรจาไกล่เกลี่ยทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนหรือผู้ไม่มีส่วนได้เสียเข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด ส่วนในด้านคดีที่มีการแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญากับนางสาวสุพิชญ์ฌา ไว้กับ สภ.เมืองนครพนม นั้น ล่าสุด พ.ต.อ. อกฤษ ทรงชัยสงวน ผกก.สภ.เมืองนครพนมเปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้มีลูกหนี้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์แล้วรวมทั้งสิ้น 33 ราย โดยในเบื้องต้นได้เข้าแจ้งความรวม 17 ราย และหลังจากออกหมายจับนางสาวสุพิชญ์ฌาแล้ว ได้มีชาวบ้านเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมอีก 16 ราย รวมแล้วขณะนี้มีผู้เข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้ว รวม 33 ราย ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องรายอื่น เพื่อจะได้ดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินเพิ่มเติม กับนายทุนรายนี้ต่อไป