แจกันมรณะย้ำระเบิดอำมหิตท้าอำนาจคสช.

แจกันมรณะย้ำระเบิดอำมหิตท้าอำนาจคสช.

แจกันมรณะย้ำระเบิดอำมหิตท้าอำนาจคสช.

10.00 น.เมื่อวานนี้ คือช่วงเวลาที่คนไข้ที่รอการรักษาที่รพ.พระมงกุฏเกล้า ต้องหวาดผวา และจำนวน 25 คนต้องได้รับบาดเจ็บ นี่คือความโหดร้าย และอย่างที่ผบ.ตร. และรองผบ.ตร.ต่างออกมาบอกว่าเป็นการกระทำที่ใจร้ายอำมหิต เพราะเป้าหมายคือผู้ป่วยในโรงพยาบาล และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของสถานการณ์ที่เลวร้ายและมีผู้บริสุทธิ์เป็นเหยื่อนับจากคสช.เข้ามาบริหารประเทศ


แจกันดอกไม้สีเขียว ที่มีดอกไม้สีส้มตกแต่งอยู่อย่างสวยงาม ตั้งอยู่ในห้อง “วงษ์สุวรรณ” ซึ่งเป็นห้องที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยและเป็นส่วนตัวของผู้ป่วยที่มาใช้บริการ เพราะเป็นห้องพักรับรองข้าราชการบำนาญ ชั้นนายพลเมื่อต้องมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า แต่เมื่อเวลาประมาณ 10 โมงเช้าของวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น สิ่งที่ไม่มีใครรู้ หรือแม้แต่จะคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้น ...ก็เกิดขึ้นแล้ว จากจุดที่ความสวยงามของแจกันใบนี้ตั้งอยู่ กลับกลายเป็นแจกันมรณะชนิดไร้มนุษยธรรมซ่อนอยู่ เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้นกลางโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยคนเจ็บป่วย จนมีผู้บาดเจ็บ 25 ราย

หลังเสียงระเบิด เศษชิ้นส่วน โต๊ะ เก้าอี้ กระจกในบริเวณนั้นแตกกระจาย ไม่ต้องพูดถึงแจกกัน ที่ไม่เหลือสภาพ เพราะแตกละเอียดพร้อมแรงระเบิด แต่ดอกไม้ ก้าน และใบปลอม ที่ทำจากผ้านั้นบางส่วนยังคงสภาพความสวยงาม สีส้มของดอกไม้ยังคงสดอยู่ แม้แต่เกสรก็ยังคงสภาพดีอย่างที่เห็น ขณะที่ใบไม้ปลอมบางส่วนก็ผสมปนอยู่กับวัสดุประกอบระเบิดอย่างตะปู สายไฟ และไอซี ไทม์เมอร์ แบบ 16 ขา ที่เป็นแบบเดียวกับที่เจอในเหตุระเบิดบริเวณหน้าโรงละครแห่งชาติ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนอุปกรณ์ตั้งเวลาระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่อีโอดีเองก็พยายามเก็บขึ้นมาอย่างทะนุถนอม เพราะแน่นอนว่า หลักฐานที่เก็บได้ทุกชิ้น อาจพบร่องรอยลายนิ้วมือของคนร้าย เผื่อว่าจะเป็นเบาะแสไว้ตามจับกันได้บ้าง

เสียงตูมกลางกรุงครั้งนี้นับเป็นการระเบิดกลางกรุงครั้ง 3 ในรอบ 47 วัน หรือในเวลาเพียงประมาณเดือนครึ่ง นับจากวันที่ 5 เมษายน 2560 ที่เกิดเหตุระเบิดบริเวณกองสลากเก่า บนถนนราชดำเนินในเวลาประมาณ 2 ทุ่ม โดยมีผู้บาดเจ็บหูอื้อ 1 ราย ครั้งต่อมาวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมาเวลา เสียงระเบิดเกิดขึ้นประมาณ 2 ทุ่ม 15 นาทีที่หน้าโรงละครแห่งชาติ ใกล้ท้องสนามหลวง

ความตกใจและการพยายามลดความตื่นตระหนกของสังคม ของเจ้าหน้าที่ ด้วยการแถลงข่าวในช่วงแรก ๆ ว่าไม่ใช่ระเบิด พยายามลดทอนความสนใจโดยอ้างว่าเป็นเสียงประทัดบ้าง เสียงท่อพีวีซีแตกบ้าง และเหตุล่าสุดที่โรงพยาบาล ที่มีข่าวแรก ๆ ว่าแก๊สระเบิด คอมเพรสเซอร์ หรือท่อแอร์ระเบิด จนที่สุดความจริงก็คือความจริงที่จบลงด้วยคำว่าระเบิดจริง ที่สำคัญเป็นระเบิดที่หน่วยงานความมั่นคง ทั้งผบ.ทบ. และผบ.ตร.บอกว่ามีหลักฐานว่าเป็นฝีมือคนกลุ่มเดียวกัน

ตลอด 3 ปีของคสช.แทบจะไม่มีม็อบการเมืองบนถนน ไม่มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมือง นักวิชาการ นักกิจกรรมการเมืองบ่อยนัก แต่ที่เขย่ารัฐบาลตลอดเวลา นอกจากความเคลื่อนไหวจากโซเชียลมีเดีย จนไล่ตามจับ ตามปิดกันไม่ทันแล้ว เสียงระเบิดก็ลุกลามในวงกว้างขึ้น

จากที่เคยเกิดต่อเนื่องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ลุกลามมาในกรุงเทพมหานคร ที่ยังคงเป็นความทรงจำอันเลวร้าย คือเหตุระเบิดในรั้วของศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 เวลา 18 นาฬิกา 55 นาที จนมีผู้เสียชีวิต 20 คน

นั่นคือเป็นเวลาเพียง 3 วัน หลังจากที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2558 ซึ่งมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานแทน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีมติเป็นเอกฉันท์เลือกพลตำรวจเอกจักรทิพย์เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 11 ต่อจากพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่หลังเกิดเหตุไม่กี่นาที ก็ร่วมกันแถลงข่าวประณามผู้ก่อเหตุว่าเป็นการกระทำที่อำมหิต

นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นไปของประเทศไทยในเวลานี้ ที่ไม่รู้ว่าจะเกิดการประณามขึ้นอีกอีกครั้ง เวลานี้จึงรอเพียงแต่ว่าคนต้นเรื่องที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์อำมหิตนี้จะหยุด เพื่อไม่ให้ผู้บริสุทธิ์ต้องกลายเป็นเหยื่อไม่รู้จบ พิกัดข่าวNOW26 รายงาน