คนร้ายจับ รปภ.สวมกุญแจมือ ก่อนงัดเซฟตู้เอทีเอ็ม

คนร้ายจับ รปภ.สวมกุญแจมือ ก่อนงัดเซฟตู้เอทีเอ็ม

รปภ.ห้างเฟอร์นิเจอร์ ชื่อดังถูกคนร้ายสามคนบุกจับใส่กุญแจมือติดบานพัดประตูก่อนทุบตู้ ATM แต่เปิดไม่ได้ สุดท้ายหยิบตัวบันทึกกล้องวงจรปิดติดมือ หลบหนี

พ.ต.ท.วิจิตร พุฒพิมพ์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 อุบลราชธานี มีคนร้ายบุกจับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ห้างจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ บนถนนชยางกูร ชื่ออินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ใส่กุญแจมือก่อนเข้างัดตู้ ATM ภายในห้าง หลังรับแจ้งจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อม พ.ต.อ.สหรัฐ ประสงค์ รองผู้บังคับการจังหวัดอุบลราชธานี พ.ต.อ.ศิราเมษฐ์ ธานินพิทักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจ๓ธรเมืองอุบลราชธานี ชุดสืบสวน เข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นพบเป็นโชว์รูมขนาดใหญ่ ด้านข้างทำเป็นทางเข้าไปทางด้านหลังที่เป็นลานจอดรถ คั่นกลางระหว่างห้องพนักงานรักษาความปลอดภัยและคลังเก็บสินค้า ส่วนด้านหน้าจะเป็นโชว์รูมใช้โชว์สินค้า และคนร้ายใช้ถังเคมีดับเพลิงทุบกระจกด้านหลังโชว์รูม เพื่อเข้าไปภายในและงัดแผงหลังตู้จ่ายเงินสดหรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารทั้งสองแห่ง โดยคนร้ายสามารถงัดบานประตูเหล็กปิดแผงควบคุมระบบคอมพิวเตอร์การทำงานของตู้ได้ แต่ไม่สามารถงัดเข้าไปในเซฟชั้นที่สองที่ใช้เป็นตู้เก็บเงินสด ก่อนคนร้ายจะหลบหนีไป

สอบถามนายโยควง อรุณโรจน์ อายุ 46 ปี เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.เศษ ขณะที่นั่งเข้ายามอยู่ระหว่างกลางของประตูทางเข้าลานจอดรถ ก็มีชาย 3 คน สวมหมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้าแอบปืนรั้วเข้ามาจากด้านข้าง แล้วใช้ปืนตบหน้าก่อนใช้ปืนจี้บังคับไม่ให้ขัดขืน พร้อมให้พาไปยังห้องทำงานของ รปภ.เพื่อไปถอดสายไฟเซฟเวอร์ของกล้องบันทึกภาพทีวีวงจรปิด และจับนายโยควงใส่กุญแจมือไพล่หลัง บังคับนอนลงกับพื้นในห้องทำงาน รปภ.โดยมีคนร้าย 1 คน คอยเฝ้าอยู่ในห้อง

ขณะที่คนร้ายอีก 2 คน ใช้ถังดับเพลิงทุบกระจกเข้าไปงัดตู้ ATM ของธนาคาร กสิกรไทย และ ธนาคารกรุงเทพ ภายในของห้างและช่วยกันใช้อุปกรณ์งัดบานประตูเหล็กด้านหลังของตูเอทีเอ็มชั้นบน ซึ่งเป็นจุดใช้ควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ใช้จ่ายเงิน แต่ไม่สามารถเจาะชั้นล่างของตู้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเซฟใช้เก็บเงินสดได้

หลังกลุ่มคนร้ายใช้ความพยายามจะเจาะเอาเงินจากตู้เซฟนานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ไม่สำเร็จ และใกล้เช้าแล้ว คนร้ายจึงย้อนกลับมาหานายโยควง เพื่อถอดเอาเซฟเวอร์ของกล้องทีวีวงจรปิดไป และลากตัวนายโยควงขึ้นมาปลดกุญแจมือด้านซ้ายออก เพื่อไปคล้องกับบานพับของประตูห้องทำงาน รปภ.ก่อนพากันหลบหนีไป โดยไม่ทราบว่าคนร้ายใช้ยานพาหนะอะไร

และหลังคนร้ายพากันไปหมดแล้ว นายโยควงก็อ้างว่า ได้ใช้มือล้วงเอามีดพับที่พกเป็นประจำออกจากกระเป๋ากางเกงใช้ปลายแหลมของมีดสะเดาะกุญแจมือจนหลุดออกจากการควบคุม ก่อนเดินขึ้นไปบนชั้นที่ 4 ของโชว์รูมที่เป็นที่พักของพนักงานขายสินค้า และเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ก่อนโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ