เวิร์คพอยท์โชว์ไตรมาสแรกกำไรพุ่ง500%

นายสุรการ ศิริโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการงาน บริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนท์เมนท์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ปี2560 เปรียบเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยชี้แจ้งว่า มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่เท่ากับ 173.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 144.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 503% จากช่วงเดียวกันปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 28.7 ล้านบาท

มีรายได้รวม(ไม่รวมรายได้อื่น) จำนวน 806 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 246.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมีรายได้ 559.7 ล้านบาท

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของรายได้รวมมาจาก "ธุรกิจรายการโทรทัศน์" ที่ประกอบด้วย รายได้จากการขายโฆษณาและโปรโมทในช่วงเวลาต่างๆของช่อง "เวิร์คพอยท์" ,สถานีทีวีอื่น และช่องทางสื่อออนไลน์ต่างๆ เช่น ยูทูบ รวมถึงรายได้จากการให้เช่าช่วงเวลาให้แก่บุคคลภายนอก เพื่อออกอากาศรายการทีวีในช่องเวิร์คพอยท์ ,รายได้จากการรับจ้างผลิตรายการเพื่ออออากาศในช่องเวิร์คพอยท์ และสถานีทีวีอื่น และรายได้จากการจำหน่ายลิขสิทธิ์ไปยังต่างประเทศ

ในไตรมาส 1 ปี 2560 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจรายการทีวีรวม 738.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 230 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 45% ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของรายได้ธุรกิจทีวี มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ช่องเวิร์คพอยท์ โดยไตรมาส 1 ปี 2560 บริษัทมีรายได้จากช่องเวิร์คพอยท์ เท่ากับ 696.8 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันปีก่อนเท่ากับ 200.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 40%

นอกจากนี้รายได้จากสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วยเช่นกัน โดยไตรมาสที่1 ปี 2560 บริษัทมีรายได้จากสื่อออนไลน์ 37.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 10.3 ล้านบาท หรือ 268%

สำหรับรายได้จากการรับจ้างจัดงานของบริษัท ประกอบด้วย การจัดอีเวนท์ต่างๆ ทั้งที่เป็นการรับจ้างผลิตให้แก่บุคคลภายนอกและจัดขึ้นเอง ในไตรมาส 1 ปี 2560 บริษัทมีรายได้ 25.8 ล้านบาท ลดลง 2.8 ล้านบาท หรือลดลง 10% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมีรายได้ 28.6 ล้านบาท

ส่วนรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตและละครเวที ประกอบด้วย คอนเสิร์ตและละครเวทีที่บริษัทจัดขึ้นเอง,รายได้จากการให้เช่าพื้นที่โรงละครของบริษัท และรายได้จากผู้ให้การสนับสนุนสปอนเซอร์โรงละคร โดยมีรายได้รวม 37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.5 ล้านบาท หรือ 72%

ทางด้านต้นทุนไตรมาส 1 ปี 2560 รวมทั้งสิ้น 392.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74 ล้านบาท หรือ 23% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีต้นทุน 318.9 ล้านบาท โดยมีสาเหตุจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนรายการทีวี ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของบริษัท ทั้งนี้ต้นทุนรายการทีวี ประกอบด้วย ต้นทุนผลิต,ค่าตัดจำหน่ายใบอนุญาต,ค่ายิงสัญญาณ ,ค่าจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์รายการ,ต้นทุนส่วนกลาง และต้นทุนค่าเช่าเวลาออกอากาศ กรณีที่เช่าเวลาเพื่อออกอากาศรายการในทีวีช่องอื่น

โดยไตรมาส1 ปี 2560 บริษัทมีต้นทุนรายการทีวี 345 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.4 ล้านบาท หรือ 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นตามจำนวนรายการที่ผลิตมาขึ้น เพื่อเพิ่มความนิยมให้แก่ช่องเวิร์คพอยท์ ได้แก่ รายการ The Mask singer , กล้องส่องรัก ,ปริศนาฟ้าแลบเด็ก ,เดี่ยวดวลไมค์ไทยแลนด์ ,ไมค์หมดหนี้, ไมค์ทองคำเด็ก ,และหมอลำฝังเพชร เป็นต้น

ขณะที่ค่าใช้จ่ายการขายและบริหารในไตรมาสที่1 ปี2560 อยู่ที่ 160.2 ล้านบาท ลดลง 20.7 ล้านบาท หรือลดลง 11% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร 181 ล้านบาท โดยการลดลงดังกล่าวมาจากการลดค่าใช้จ่ายประชาสัมพันธ์ โปรโมทรายการทีวี และการลดลงของค่าใช้จ่ายสำนักงาน