‘ทริส’คาดอสังหาฯปีนี้ทรงตัว

‘ทริส’คาดอสังหาฯปีนี้ทรงตัว

ทริสคาดความต้องการที่อยู่อาศัยปีนี้ทรงตัวจากปีก่อนท่ามกลางปัจจัยลบทั้งหนี้ครัวเรือนระดับสูงและเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น แต่เชื่อผู้ประกอบการส่วนใหญ่รับมือได้

บริษัททริสเรทติ้ง ระบุว่า บริษัทยังคงแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” สำหรับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ แม้ว่าปัจจัยลบเดิมๆจะยังคงอยู่ แต่ทริสเรทติ้งก็คาดว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะสามารถปรับ กลยุทธ์ให้เข้ากับสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอยู่ในปัจจุบันได้

ทั้งนี้ ความต้องการที่อยู่อาศัยในปี 2560 คาดว่าจะทรงตัวหรือเติบโตเล็กน้อยจากปี 2559 ธนาคารส่วนใหญ่ยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อให้แก่กลุ่มลูกค้าผู้ซื้อบ้าน เนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ปรับเพิ่มขึ้น 

อย่างไรก็ดี คาดว่าสัดส่วนของหนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ น่าจะไม่ปรับเพิ่มมากขึ้นไปกว่านี้ ส่วนอัตราดอกเบี้ยนั้นก็ไม่น่าปรับเพิ่มขึ้นรวดเร็วตามที่เคยคาดการณ์ไว้ สำหรับสิ่งที่น่าเป็นกังวลปีนี้คือ จำนวนที่อยู่อาศัยพร้อมขายที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียมราคาต่ำ

ณ สิ้นปี 2559 จากข้อมูลของ Agency for Real Estate Affairs (AREA) ระบุว่าจำนวนที่อยู่อาศัยพร้อมขายในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลอยู่ที่ 184,329 ยูนิต โดยเป็นสัดส่วนของบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์เฮ้าส์อย่างละเท่ากันที่ 30% และคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 38% คอนโดมิเนียมพร้อมขายอยู่ที่ประมาณ 70,000 ยูนิต ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนสูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 โดยประมาณ 70% ของคอนโดมิเนียมที่ยังเหลือขายอยู่ในกลุ่มต่ำกว่า 3 ล้านบาทต่อยูนิต

ทั้งนี้ จากอัตราการขาย 2 ปีที่ผ่านมาคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปีถึงจะระบายจำนวนที่อยู่อาศัยที่เหลืออยู่ได้ทั้งหมด กลุ่มผู้ประกอบการอาจต้องลดราคาขายหรือให้สิทธิประโยชน์มากขึ้น ซึ่งมาตรการกระตุ้นยอดขายเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่ออัตรากำไร

ปัจจุบันผู้ประกอบการหลายรายเริ่มตระหนักถึงจำนวนอุปทานส่วนเกินในกลุ่มคอนโดมิเนียมราคาต่ำ และหันไปเน้นขายบ้านหรือที่อยู่อาศัยที่มีราคาสูงขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากอุปทานที่อยู่อาศัยในตลาดระดับบนมีความอ่อนไหวต่อผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่น้อยกว่า บางรายยังมีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าที่สร้างรายได้สม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังหันไปเน้นกลุ่มลูกค้าและต่างชาติเพื่อชดเชยกับความต้องการในประเทศที่ชะลอตัว

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตให้แก่ผู้ประกอบการในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 20 ราย โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้น 4% ในปี 2559 เนื่องจากมาตรการกระตุ้นภาษีของภาครัฐที่ออกมาไตรมาสสุดท้ายปี 2558 และสิ้นสุดมาตรการเดือนเม.ย.2559

ขณะที่ปี2559 ยอดขายของผู้ประกอบการที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตทั้ง 20 ราย อยู่ที่ประมาณ 246,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2558 แม้ว่ามูลค่าโครงการเปิดใหม่จะลดลงประมาณ 12% เมื่อเทียบกับปี 2558 ความสามารถในการทำกำไรของผู้ประกอบการ ยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนโดยเฉลี่ยปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย มูลค่าโครงการเปิดใหม่ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีโครงการใหม่หลายโครงการที่เลื่อนการเปิดตัวมาจากปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม จำนวนหน่วยของที่อยู่อาศัยที่เปิดใหม่อาจจะไม่เพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบการน่าจะเน้นขายสินค้าที่มีราคาสูงกว่าเพราะอุปสงค์ของสินค้าในกลุ่มนี้ยังคงดีอยู่