เต้นท์รถแสบ รับค่างวดแล้วไม่ส่งต่อ ผู้ซื้อถูกไฟแนนซ์ตามยึด

นายดวงคำ พรมปัญญา อายุ 59 ปี พร้อมพวกรวม 8 คน ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.จิตเกษม แก้วท่าไม้ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ ว่าพวกตนมีความเดือดร้อนหนักเนื่องจากถูกบริษัทไฟแนนซ์ตามทวงถามหนี้ค่างวดรถและขอให้นำรถที่เช่าซื้อไปแต่ขาดส่งงวดนำมาคืนให้บริษัทไม่งั้นจะถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์

นายดวงคำ เล่าว่าก่อนหน้านี้ประมาณ 6 ผ่านมาพวกตนได้นำรถยนต์เก่าไปขายพร้อมกับซื้อรถมือสองคันใหม่ออกมาจากร้าน “ลุงมีรถบ้าน” ตั้งอยู่เลขที่156หมู่ที่5บ้านพรสวรรค์ ต.ชุมภูพร อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ โดยนายบุญมี สวรรณไตร อายุ57ปีเป็นเจ้าของ โดยจะซื้อให้ในราคาที่สูงหรือตีเทิร์นเป็นเงินดาวน์ยังได้มีเงินทอนมาใช้อีกด้วย ส่วนมากรถที่นำไปขายก็จะเป็นรถที่ยังติดค้างค่างวดอยู่ โดนนายบุญมีจะเป็นคนรับผิดชอบส่งค่างวดรถคันที่รับซื้อไป ส่วนพวกตนที่ซื้อรถมือสองออกไปจากร้านนายบุญมีก็จะทำสัญญาเช่าซื้อส่งค่างวดเป็นรายเดือนกับนายบุญมีที่รับจัดทำไฟแนนซ์เอง แต่พอเวลาผ่านไป6เดือนพวกตนถูกบริษัทไฟแนนซ์เดิมทวงถามค่างวดรถที่ขายไปให้นายบุญมี หากไม่จ่ายก็ขอให้นำรถมาคืนบริษัทพร้อมค่าทวงถาม พอไปถามครั้งแรกก็บอกว่าไม่มีปัญหาจะจัดการจ่ายค่างวดให้ทุกราย แต่ยังเพิกเฉยอยู่ไปทวงถามอีกทีปิดร้านเชิดเงินหนีค่าเสียหายประมาณ2ล้านบาทเศษมีรถยนต์ที่เกี่ยวข้องประมาณ 15 คัน ซึ่งยังไม่รวมรถยนต์ที่อยู่จังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย จึงต้องมาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนายบุญมี เจ้าของเต้นท์รถมือสอง

พ.ต.ท.จิตเกษม กล่าวว่า นายบุญมี มีเจตนาหลอกลวงผู้เสียหายเพื่อต้องการเงินส่วนต่างที่ได้จากการซื้อขายแลกเปลี่ยนรถยนต์ และเงินที่ได้จากการนำรถยนต์ที่รับซื้อไว้ไปขายต่อให้ผู้อื่นในราคาที่สูงกว่าราคาที่รับซื้อไว้ โดยจะชำระค่างวดให้บริษัทเจ้าของกรรมสิทธิ์รถบางครั้งก็เพื่อประวิงเวลามิให้ผู้เช่าซื้อเดิมถูกทวงถามให้ชำระหนี้ เมื่อผู้เสียหายได้ติดตามทวงถามบ่อยจึงได้ปิดกิจการแล้วเชิดเงิน่หลบหนีไป พฤติการณ์และการกระทำของนายบุญมีเป็นการกระทำความผิดฐาน”ฉ้อโกงประชาชน”อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมาย จะได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดบึงกาฬเพื่อออกหมายจับต่อไป