‘เคทีซี’ สั่งคุม ‘เอ็นพีแอล’ ปีนี้ต่ำ1%

‘เคทีซี’ สั่งคุม ‘เอ็นพีแอล’ ปีนี้ต่ำ1%

"เคทีซี" สั่งคุม "เอ็นพีแอล" ปีนี้ต่ำ1% มั่นใจระบบคัดกรองลูกค้าดี พร้อมวาง 4 กลยุทธ์ลุยธุรกิจปีนี้

“เคทีซี” สั่งคุม “เอ็นพีแอล” ปีนี้ต่ำ 1% หลังไตรมาสแรกทรงตัวในระดับ 0.9% มั่นใจระบบคัดกรองลูกค้าดี พร้อมลุยติดตามหนี้เข้มข้น รวมทั้งปรับฐานรายได้ผู้สมัครขึ้นเป็น 1.2 หมื่นบาทต่อเดือน มองสินเชื่อส่วนบุคคลไตรมาส 2 ยังโตได้ วาง 4 กลยุทธ์ลุยธุรกิจปีนี้

นางสาวสุดาพร จันทร์วัฒนากุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจสินเชื่อบุคคล บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทจะควบคุมหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับ 0.9-1% จากสิ้นปีก่อนและไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ระดับ 0.9% ซึ่งยังถือว่าต่ำกว่า NPL ในระบบอยู่ที่ 3.1%, ธนาคาร 4.1% และนอนแบงก์ 2.3%

โดยบริษัทสามารถบริหารจัดการ NPL อยู่ในระดับต่ำได้ดี ด้วยระบบคัดกรองลูกค้าและติดตามหนี้ที่เข้มข้น ทำให้การปฏิเสธสินเชื่อที่ผ่านมาสูงถึง 70% และ ยอดการอนุมัติอยู่ที่ 30% ซึ่งอยู่ในระดับนี้มา 5 ปีแล้ว ขณะเดียวกันบริษัทได้ปรับฐานรายได้ผู้สมัครขั้นต่ำจาก 10,000 บาทต่อเดือน เป็น 12,000 บาทต่อเดือน เช่นเดียวกับธนาคารได้ปรับเข้มงวดคุณสมบัติผู้สมัครขั้นต่ำรายได้จาก 30,000 บาทต่อเดือน เป็น 50,000 บาทต่อเดือน และนอนแบงก์ ปรับจาก 5,000 บาทต่อเดือน เป็น 8,000 บาทต่อเดือน

“เรายังรักษาNPLไว้ที่ระดับนี้ พอร์ตลูกค้าสินเชื่อบุคคลของเรายังเป็นปกติ เพราะลูกค้าเรามีวินัยการใช้เงิน และเราไม่ได้กระตุ้นให้ลูกค้าใช้จ่ายเงินเกินตัว อีกทั้งภาพรวมเศรษฐกิจตอนนี้ยังชะลอตัว โดยเฉพาะคนระดับล่าง ยังไม่ค่อยกล้าจับจ่ายมากนักอีกทั้งค่าครองชีพสูง”

นางสาวสุดาพร กล่าวด้วยว่า แนวโน้มสินเชื่อบุคคลไตรมาส 2 ปีนี้ของบริษัท คาดว่ายังเติบโตได้ดีกว่าไตรมาส 1 ปีนี้ ที่เติบโต 17% เป็นมูลค่าสินเชื่อ 22,158 ล้านบาท มีจำนวนลูกค้า 834,336 ราย มีส่วนแบ่งการตลาดจำนวนสมาชิกคิดเป็น 6.8% และจำนวนสินเชื่อคิดเป็น 6.5% เนื่องจากหลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นทั้งเทศกาลสงกรานต์ และ เปิดเทอมที่เป็นฤดูกาลการจับจ่ายใช้สอย

ดังนั้น สำหรับกลยุทธ์ในไตรมาส 2 และปี 2560 บริษัทพร้อมรุกธุรกิจแข่งขันเข้มข้นด้วย 4 กลยุทธ์หลัก 1.ขยายฐานสมาชิกไปยังกลุ่มเป้าหมายวิชาชีพต่างๆ และขยายธุรกิจด้วยความระมัดระวัง 2.พัฒนาระบบสนับสนุนการขยายฐานสมาชิกสินเชื่อใหม่ 3.จัดกิจกรรมการตลาดในวงกว้างและแบบเฉพาะเจาะจง 4.รักษาและผูกสัมพันธ์กับฐานสมาชิกในระยะยาว ทางด้านงบการตลาดในปีนี้ตั้งไว้ที่ 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับเดียวกับปีก่อน

สำหรับแคมเปญการตลาดในไตรมาส 2 ที่จะเกิดขึ้น จะเน้นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า เพื่อให้สอดรับกับสภาพเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ตลอดจนสร้างประสบการณ์ที่ดี และสร้างความพึงพอใจให้กับสมาชิกปัจจุบัน ได้แก่ “แคมเปญเคลียร์หนี้เกลี้ยง” ที่เคทีซีจัดต่อเนื่องมา 5 ปี รวม 6 ครั้ง ซึ่งลูกค้าชื่นชอบและมีจำนวนผู้สมัครเข้าร่วมแคมเปญมากขึ้นเรื่อยๆ 

โดยจะมีข้อเสนอที่แตกต่างกันไปในแต่ละปี “แคมเปญ เที่ยวฟรี ตามใจฝัน เคทีซีจัดให้” ครั้งแรกในวงการสินเชื่อบุคคลของไทยที่ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่และช่วยให้สมาชิกได้ผ่อนคลายจากภาระหน้าที่ในชีวิตประจำวัน “แคมเปญ Half Price Promotion” สมัครสมาชิกใหม่มอบส่วนลดดอกเบี้ยฯ สูงถึง 50% เพียงสมัครเป็นสมาชิก “เคทีซี พราว” ก็จะได้รับสิทธิเข้าร่วมในกิจกรรมดังกล่าว โดยปัจจุบันคุณสมบัติผู้สมัครสินเชื่อพร้อมใช้ “เคทีซี พราว” จะต้องเป็นพนักงานประจำในบริษัทเอกชน มีรายได้ 12,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป หรือเป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ”

“เรายังเน้นขยายฐานลูกค้าใหม่ให้ครอบคลุมในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมที่เติมโตดีในปีนี้ ส่วนกลุ่มลูกค้าในโรงงานอุตสาหกรรมยังคงหลีกเลี่ยงทั้งปล่อยสินเชื่อและตามหนี้ยาก”

โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าสินเชื่อบุคคลโต 15% มีมูลค่าสินเชื่อ 25,000 ล้านบาท มีจำนวนลูกค้าใหม่เพิ่ม 160,000 ราย จากสิ้นปี 2559 มีมูลค่าสินเชื่อ 21,595 ล้านบาท โต 18.2% และมีฐานลูกค้า 818,068 ราย

“ในขณะที่ทั้งระบบสิ้นปีนี้โต 3-4% โดยจะเห็นว่ากำลังซื้อยังหดตัว คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย เพราะรายได้ลดลง แต่บริษัทก็ยังโตและคาดว่าจะเกินเป้าหมายอาจถึง 16% แต่ไม่ถึง 20%”