“ยูทูบ”เนื้อหอมพาร์ทเนอร์รุม ผุด'รายการ'ดึงคนดูยุคใหม่

“ยูทูบ”เนื้อหอมพาร์ทเนอร์รุม ผุด'รายการ'ดึงคนดูยุคใหม่

The Mask Singer เป็นพาร์ทเนอร์ของยูทูบที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มียอดผู้เข้าชมพร้อมกันสูงถึง 840,000 วิว ถือว่าสูงมาก

พลันที่ ‘ยูทูบ’ เปลี่ยนกติกาการสร้างรายได้ใหม่ โดยระบุว่าครีเอเตอร์ หรือเจ้าของแชนนัล ต้องมียอดการเข้าชมอย่างน้อย 10,000 ครั้งก่อนจึงเริ่มทำเงินได้ เกณฑ์ที่ิิออกมาครั้งนี้ เพื่อคัดกรองครีเอเตอร์ที่อัพโหลดวิดีโอละเมิดสิขสิทธิ์ และเชื่อว่า เป็นการสนับสนุนผู้ใช้ให้เล่นตามเกมไม่นอกกติกา

ขณะที่ ผู้บริหารออกมายืนยันว่า แม้จะมีกฏเกณ์ใหม่ออกมา ก็ยังมีพาร์ทเนอร์แสดงความสนใจทำรายการบนช่องของยูทูบอย่างต่อเนื่อง ด้วยแพลตฟอร์มสร้างคอนเทนท์ที่หลากหลาย ครอบคลุมไปถึงบนสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะฟีเจอร์ โมบาย ไลฟ์ สตรีมมิ่ง ท่ามกลางการเสพสื่อของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนจากสื่อดั้งเดิมมาสู่สื่อออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ก่อนหน้านี้ ยูทูบค่อนข้างเปิดกว้างให้ใครก็ได้สามารถอัพโหลดวิดีโอ และทำเงินได้ หากมีคนเข้าชม ทำให้ยูทูบเป็นแพลตฟอร์มที่จะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายอย่างรวดเร็ว แต่มีปัญหา คือ มีผู้ใช้งานหลายคนที่อัพโหลดวิดีโอของผู้อื่น ละเมิดลิขสิทธิ์ และผิดกฎหมาย แต่ยังสามารถทำเงินจากยูทูบ มีตั้งแต่วิดีโอที่ ไปจนถึงภาพยนตร์ระดับโลก

ยูทูบ เชื่อว่ากฎใหม่ที่ออกมานี้ นอกจากจะทำให้ผู้เล่นต้องทำตามนโยบายมากขึ้นแล้ว ยังจะช่วยทำให้ครีเอเตอร์หรือผู้ใช้งานหน้าใหม่ๆ สร้างสรรค์ผลงานอย่างมีคุณภาพมากขึ้น

พาร์ทเนอร์รุมสร้างช่องรายการ
นายไมเคิล จิตติวาณิชย์ หัวหน้าฝ่ายการตลาดกูเกิล ประเทศไทย กล่าวว่า กฏเกณฑ์ใหม่ที่ยูทูบออกมาส่งผลดีกับเหล่าครีเอเตอร์ในสองเรื่อง คือ 1.ยูทูบต้องการปกป้องการละเมิดจากพวกที่คอยฉกฉวยโอกาส ทั้งจากเหล่าคนหลอกลวง สแปมเมอร์ และคนที่อัพโหลดคอนเทนท์ผู้อื่น 2.เพื่อปกป้องนักโฆษณา โดยเพิ่มการป้องกันในการช่วยเหลือให้เนื้อหาโฆษณาไม่ถูกตรวจพบว่าเป็นเนื้อหาสแปม หลอกลวง เเละน่ารังเกียจ

ปัจจุบันมียูทูบ ครีเอเตอร์ ที่เป็นช่อง Gold Button จำนวน 51 ช่อง และช่องที่เป็น Silver Button มากกว่า 600 ช่อง และเชื่อว่า ยังมีพาร์ทเนอร์ที่พร้อมสร้างช่องทางรายการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"ยูทูบเป็นแพลตฟอร์ม ที่เป็นแหล่งรวมของรายการทีวีมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เเละรวบรวมคอนเทนท์คุณภาพไว้มากมาย เราไม่สามารถเเชร์ตัวเลขที่เป็นการคาดการณ์เกี่ยวกับการเติบโตได้ แต่ที่เราสามารถเปิดเผยได้ คือ พาร์ทเนอร์ของเราแสดงความสนใจอย่างมากในการสร้างรายการต่างๆ บนช่องยูทูบในเวลานี้"

นายไมเคิล กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา กระแสของรายการ เดอะ มาสก์ ซิงเกอร์ ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ของยูทูบ ถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก พิสูจน์ถึงการสร้างคอนเทนท์ที่เผยเเพร่ในหลากหลายเเพลตฟอร์มด้วยคอนเทนท์ที่ดี รายการเดอะ มาสก์ ซิงเกอร์ มียอดวิวบนยูทูบ ผู้เข้าชมพร้อมกันสูงถึง 840,000 วิว ซึ่งถือว่าสูงมาก

“อีกอย่างที่เราเห็น คือ ระหว่างที่มีการโฆษณาผู้ชมก็ยังเลือกชมรายการอย่างต่อเนื่อง”

ขณะที่ เมื่อเร็วๆ นี้ ยูทูบได้เปิดตัวฟีเจอร์สตรีมสดผ่านมือถือ (Mobile Live Streaming) ให้ครีเอเตอร์ทุกคนที่มีผู้ติดตามตั้งแต่หนึ่งหมื่นคนขึ้นไป เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์มีความสามารถใช้พลังการไลฟ์สตรีมวิดีโอ ให้มีวิธีหรือแนวทางที่คุ้นเคยและตอบสนองได้ทันทีในการแสดงความคิด แบบสดๆ และสร้างสรรค์

ไลฟ์สตรีมบนโทรศัพท์มีอยู่ในแอพยูทูบบนมือถือ เมื่อต้องการสตรีมสดแค่เปิดยูทูบ กดปุ่มจับภาพ ก็สตรีมสดได้เลย วิดีโอที่สตรีมออกไปจะมีฟีเจอร์เหมือนกับวิดีโอในยูทูบทั่วๆ ไปที่ผู้ชมสามารถค้นหาได้ หรือปรากฎอยู่ในวิดีโอแนะนำหรือเพลย์ลิสต์ ที่ได้รับการป้องกันจากการใช้งานที่ไม่เหมาะสมด้วย

นายไมเคิล กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เป้าหมายยูทูบในไทย คือ ต้องการเป็นแพลตฟอร์มที่คนไทยใช้เป็นประจำ โดยไทยอยู่ใน 10 ประเทศที่รับชมยูทูบสูงสุดทั่วโลก ทั้งยังมีชุมชนคอนเทนท์ ครีเอเตอร์ที่แข็งแรงและแข็งแกร่ง

โอกาส “แบรนด์”เข้าถึงลูกค้า
นายไมเคิล กล่าวต่อว่า ยูทูบในไทย เป็นช่องทางที่ทำให้ธุรกิจสร้างแบรนด์ และเข้าถึงผู้บริโภคได้กว้าง พร้อมยังมีส่วนร่วมได้สูงสุด แบรนด์ต่างๆ นำเสนอความคิดสร้างสรรค์มาก มายๆ ผ่านโฆษณาสำหรับฟอร์แมตยูทูบโดยเฉพาะ เช่น โฆษณาความยาว 6 วินาที ที่เป็นมิตรกับการชมจากโทรศัพท์ เป็นต้น ในเวลาที่สมาร์ทโฟนทำให้ผู้คนเข้าถึงวิดีโอจากที่ไหนก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ที่พวกเขาต้องการชม เป็นการเพิ่มช่องทางให้ผู้คนเข้าถึงวิดีโอได้

ขณะที่ แพลตฟอร์มวิดีโอยังเปิดโอกาสให้นักโฆษณาสามารถเชื่อมต่อผู้ชมในแบบเสมือนจริงบนยูทูบได้เท่าที่พวกเขาต้องการ สร้างสรรค์ผลงานโฆษณาให้ผู้ชม เปิดโอกาสให้ผู้ชมมีส่วนร่วมกับแบรนด์ ผ่านการเชิญชวนในรูปแบบโฆษณาที่ตรงกับเนื้อหาและประสบการณ์ที่พวกเขารู้สึกสนุกสนานบนออนไลน์

“นักโฆษณาชื่นชอบรูปแบบโฆษณาบนยูทูบทั้งสองประเภท ทั้งแบบที่กดข้ามได้ (หรือ TrueView) เพิ่มความมั่นใจให้กับนักโฆษณาว่า พวกเขาจะจ่ายค่าโฆษณาเมื่อมีผู้ใช้ชมวิดีโอและโฆษณาสั้นแบบใหม่หรือ Bumper Ads ที่ท้าทายนักโฆษณาให้สื่อสารเนื้อหาแบบง่ายๆ เร็วๆ ภายใน 6 วินาทีแรก”