แฟนใหม่หึงหวง ยกแก๊งรุมกระทืบแฟนเก่าตาย-เพื่อนเจ็บสาหัส

เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เวลาประมาณ 00.20 น. วันที่ 31 มี.ค.2560 ร.ต.อ พิทยา ศรีเรือง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ. พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 รายเหตุเกิดบริเวณถนน ปากทางเข้าประตูวัดเสนา หมู่ 8 ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์และทีมกู้ชีพโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา

ในที่เกิดเหตุพบรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้าดรีม ซุปเปอร์ คัพ สีฟ้าหมายเลขทะเบียน 6 กฉ 5542 ก.ท.ม จอดลมอยู่กลางถนน ใกล้กันพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 2 รายหญิง 1 ราย ทราบชื่อ นายสมชาติ กระจ่างแสง อายุ 32 ปี ชาวบ่อตาโล่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มีบาดแผลถูกฟันที่ศรีษะ ขาข้างซ้ายหัก รายที่ 2 ชื่อ น.ส สายฝน ผู้หิรัญ อายุ 21 ปี ชาวลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มีบาดแผลบนใบหน้าเขียวซ้ำ รายที่ 3 นายอนุชา มีแสง อายุ 20 ปี ชาวลำตาเสา อ.วังน้อย อาการสาหัสหมดสติ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์และทีมกู้ชีพนำผู้บาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาและนายอนุชา เสียชีวิตในเวลาต่อมา

นายสมชาติ ผู้บาดเจ็บทราบ เปิดเผยว่า ตนเป็นคนขี่รถจยย.คันเกิดเหตุโดยพาเพื่อนคือนายอนุชา และน.ส.สายฝน นั่งซ้อนท้ายกันมา ไปนั่งเล่นที่อ่างเก็บน้ำ อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.พระนครศรีอยุธยา ขณะที่นั่งเล่นอยู่นั้น ตนเองได้เร่งเครื่องยนต์รถจยย.เสียงดัง

จากนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังขับรถผ่านมา จำนวน 5 คัน จากนั้น 1 ใน 5 คันนั้น จำได้ว่าเป็น รถจยย. ฮอนด้า pcx สีขาวไม่ทราบทะเบียน ได้เข้ามาจอดรถ จากนั้นคนขี่และคนซ้อน ก็เดินลงมาใช้อาวุธมีด และไม้ลงมาทำร้ายพวกตน นายสมชาติจึงรีบขึ้นรถจยย.หนี โดยมีนายอนุชา กระโดดซ้อนท้าย โดยได้ทิ้ง น.ส.สายฝน เพื่อนอีก 1 คนไว้ จนถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกาย อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย

นายสมชาติ กล่าวอีกว่า เมื่อตนได้ขี่รถจยย.หลบหนี มาถึงที่เกิดเหตุรถจยย.ได้เสียหลัก พุ่งชน รถยนต์ที่จอดอยู่ข้างทาง จนยางรถยนต์ล้อหลังข้างซ้ายแตก แล้วเสียหลักล้มลง จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 5 คน ที่ขับตามมา ได้ ลงมากระทืบและใช้มีดฟันที่ศรีษะ พวกตนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

ส่วนสาเหตุที่ทำให้กลุ่มวัยรุ่น มาทำร้ายพวกตนนั้น ตนคิดว่า หน้าจะมีสาเหตุมาจากที่ตนได้เร่งเครื่องยนต์รถจยย.จนเสียงดัง จนทำให้กลุ่มวัยรุ่นไม่พอใจ จึงได้ก่อเหตุดังกล่าว

ล่าสุด พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผกก.สส.ภจว.พระนครศรีอยุธยา อยู่ระหว่างการสอบสวนพยาน และติดตามกกล้องวงจรปิดตามเส้นทางซึ่งพอรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว จะได้จับกุมมาดำเนินคดีต่อไป

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 31 มีค ที่ห้องสอบสวน ภจว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผกก.ภจว.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับชุดสืบสวนนำตัวน.ส.สายฝน ผู้หิรัญ อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นสาวทอม ที่ถูกทำร้ายมาสอบปากคำซักถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งน.ส.น้ำฝนให้ปากคำกับตำรวจเป็นอย่างดี โดยทำการสอบสวนอยู่เป็นเวลานานกว่า 2 ช.ม. ซึ่ง น.ส.สายฝนมีบาดแผลที่ด้านหลังเป็นรอยเขียวช้ำจากการที่อ้างว่าถูกมีดฟัน แต่ไม่เข้าทำให้เขียวช้ำ

ส่วนนายสมชาติ กระจ่างแสง อายุ 32 ปีเพื่อนอีกคนที่ถูกทำร้ายที่ศรีษะ และขาซ้ายหักจากการขี่รถจยย.หนีกลุ่มวัยรุ่นไปชนกับรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่ ได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านยังไม่สามารถมาให้ปากคำได้

พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผกก.ภจว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นสาเหตุไม่ได้มาจากการที่กลุ่มผู้บาดเจ็บไปจอดรถเร่งเครื่องเสียงดัง จนทำให้วัยรุ่นที่ก่อเหตุเข้าไปทำร้าย แต่มีสาเหตุมาจากเรื่องของชู้สาวเป็นประเด็นหลัก ซึ่งการการสอบสวนพยานและผู้บาดเจ็บทำให้ทราบว่า นายอนุชาผู้เสียชีวิต ซึ่งมากับนายสมชาติ และน.ส.สายฝน เคยมีแฟนอยู่ที่ ต.ลุมพลี อ.พระนครศรีอยุธยา ใกล้กับที่เกิดเหตุ

โดยก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน น.ส.สายฝน ได้รับโทรศัพท์จากอดีตแฟนสาวของนายอนุชา ว่า มีเรื่องเดือดร้อน มีกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิงมามีเรื่องกับอดีตแฟนสาวของนายอนุชา ให้น.ส.สายฝน ช่วยบอกนายอนุชา ให้มาช่วยด้วย นายอนุชาจึงชวนนายสมชาติและน.ส.สายฝน ซ้อนจยย.กันไปที่อ่างเก็บน้ำพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร จนกระทั่งมีกลุ่มวัยรุ่นขี่จยย.มาจอดแล้วมาทำร้ายดังกล่าวจนนายอนุชาเสียชีวิตในที่สุด

พ.ต.อ.ภัทรภัทร ยังเปิดเผยด้วยว่าจากการรวบรวมพยานและตรวจสอบประวัติของผู้เสียชีวิตและอดีตแฟนสาว ทำให้เชื่อว่าทั้งสองอาจจะมีการติดต่อกัน จนกระทั่งแฟนคนปัจจุบันล่วงรู้ แล้วมาทำร้าย ซึ่งจนท.กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเรียกตัวมาสอบสวน โดยเฉพาะอดีตแฟนที่โทรศัพท์หาน.ส.สายฝน ว่ามีส่วนรู้เห็นหลอกนายอนุชามาให้กลุ่มแฟนใหม่ทำร้ายหรือไม่

หรือมีการติดต่อกันจนแฟนใหม่รู้มาทำร้าย ซึ่งขณะนี้จากกล้องวงจรปิดเท่าที่ได้มา ทำให้เห็นว่ากลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ขี่จยย. 5 คันติดตามนายสมชาติและนายอนุชา ไปทำร้ายจนบาดเจ็บ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ตัวในเร็วๆนี้ ส่วนศพของนายอนุชา ญาติได้รับไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว