SCCC - ซื้อ

SCCC - ซื้อ

หุ้นปันผลที่กำลังกลับมาโตอีกครั้ง

ประเด็นการลงทุน

เราเริ่มต้นคำแนะนำซื้อ SCCC ด้วยเป้าหมายราคา ณ สิ้นปี 2560 ที่ 340 บาท เราชอบ SCCC จากภาพการเติบโตในระยะยาวและมอง Dilution ที่เกิดจากการเพิ่มทุนเป็นเพียงการสะดุดระยะสั้นเท่านั้น การเข้าซื้อโรงปูนซีเมนต์ในศรีลังกาและเวียดนามทำให้ SCCC กลายเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์ระดับภูมิภาค และยังทำให้บริษัทเปลี่ยนภาพจากการเป็นหุ้นปันผลที่มีการเติบโตต่ำ เป็นหุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูงพ่วงด้วยผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าจูงใจ ทั้งนี้ปัจจุบัน SCCC ซื้อขายที่ PER 17.3 เท่า ปี 60 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ 0.1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงถึง 5.3%

ผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ในภูมิภาค

SCCC กลายมาเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ในภูมิภาคหลังจากเข้าซื้อ 2 กิจการได้แก่ Holcim Lanka (เปลี่ยนชื่อเป็น Siam City Cement Lanka, SCCL) ในเดือน ส.ค. 2559 และ Holcim Vietnam Limited (เปลี่ยนชื่อเป็น Siam City Cement Vietnam, SCCV) ในเดือน ก.พ. 2560 ซึ่งทำให้กำลังการผลิตปูนซีเมนต์ของ SCCC ขณะนี้อยู่ที่ 24.7 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 53% จาก 16.1 ล้านตันก่อนการซื้อกิจการ ทั้งนี้ SCCL เป็นผู้นำในตลาดปูนซีเมนต์ในศรีลังกาและมีความได้เปรียบด้านต้นทุน เนื่องจากเป็นบริษัทเดียวที่มีโรงปูนซิเมนต์แบบครบวงจร ส่วน SCCV เป็นผู้ผลิตปูนซีเมน์อันดับสองในเวียดนามตอนใต้ ซึ่งความต้องการปูนซีเมนต์ในพื้นที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

การเข้าซื้อกิจการส่งผลบวกต่อภาพรวม

นอกจากการขยายกำลังการผลิตและฐานตลาดแล้ว การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ ถือว่ามีความเหมาะสมมาก โดยทั้ง SCCL และ SCCV ยังต้องสั่งซื้อปูนเม็ดบางส่วนจากภายนอกเพื่อใช้ในการผลิตปูนซีเมนต์ ในขณะที่ SCCC มีกำลังการผลิตปูนเม็ดเหลือ การซื้อปูนเม็ดจากบริษัทแม่จะช่วยเพิ่มอัตรากำไรให้แก่ทั้งสองบริษัท โดย SCCC สามารถที่จะผลิตปูนเม็ดที่มีคุณสมบัติเฉพาะให้กับ SCCL และ SCCV ซึ่งจะช่วยลดอัตราการใช้ปูนเม็ด ในขณะที่ค่าขนส่งปูนเม็ดจากโรงปูน SCCC ในไทยไปยัง SCCV ยังถูกกว่าการส่งมาจากเวียดนามเหนือ
ที่มีกำลังการผลิตเหลือมาก นอกจากนี้ผลประโยชน์ร่วมจากการควบรวมกิจการจะมาจากการซื้อวัตถุดิบร่วมกันและจากการช่วยเหลือกันระหว่างบริษัทในเครือ

โอกาสการเติบโตในระยะยาวหักล้างผลกระทบระยะสั้นจากการเพิ่มทุน

SCCC จะคืนหนี้เงินกู้จำนวน 18,000 ล้านบาทที่ใช้ในการซื้อกิจการ SCCV ด้วยการออกหุ้นใหม่ 68 ล้านหุ้นที่ราคา 250 บาทต่อหุ้น ด้วยอัตราส่วน 3.38 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ส่งผลให้เกิด Dilution ที่ 22.8% ซึ่งในระยะสั้นคาดว่า จะยังไม่สามารถถูกชดเชยด้วยกำไรจาก SCCV อย่างไรก็ตามเรายังเชื่อว่า SCCV มีโอกาสที่จะเติบโตสูงจากการที่โรงงานตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีอัตราการเติบโตของการใช้ซีเมนต์ในระดับสูง ในขณะที่การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และผลประโยชน์ร่วมจากการควบรวมกิจการจะเป็นปัจจัยหนุนที่ทำให้กำไร ปรับตัวสูงขึ้นไปอีก

คาดปันผลไม่ต่ำกว่า 15 บาทต่อหุ้นแม้เพิ่มทุน

เราเชื่อว่า SCCC จะคงจ่ายปันผลที่ 15 บาทต่อหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีผลกระทบจากการเพิ่มทุน แต่เราคาดว่า EPS จะคงยังสูงกว่า 15 บาท นอกจากนี้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่มากกว่า 7 พันล้านบาทต่อปีนั้นสูงพอที่จะทำให้บริษัทจ่ายเงินปันผลได้อย่างสบาย