สหราชอาณาจักรเริ่มกระบวนการเบร็กซิทอย่างเป็นทางการ

สหราชอาณาจักรเริ่มกระบวนการเบร็กซิทอย่างเป็นทางการ

นายกรัฐมนตรีเมย์ กล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาอังกฤษว่า นี่คือช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ และจะไม่มีทางหันหลังกลับ

สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษเริ่มใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนเมื่อเวลา 12.20 น. ของวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่นของอังกฤษเพื่อเริ่มต้นกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) อย่างเป็นทางการแล้ว โดยเซอร์ทิม แบร์โรว์ ผู้แทนถาวรอังกฤษประจำอียูได้ยื่นหนังสือดังกล่าวต่อนายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานสภายุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ ของเบลเยียม ซึ่งจะนำไปสู่การเจรจาถอนตัวออกจากกลุ่มอียูในอีก 2 ปีข้างหน้า

ในหนังสือที่เซอร์ทิม แบร์โรว์ ยื่นต่อประธานสภายุโรป มีใจความแสดงวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีเมย์ ที่ต้องการให้เกิดกระบวนการถอนตัวออกจากอียูในช่วง 2 ปีข้างหน้า

ขณะที่นางเมย์ ได้กล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาอังกฤษว่า นี่คือช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ และจะไม่มีทางหันหลังกลับ” พร้อมกันนี้ ผู้นำอังกฤษ เรียกร้องให้สหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งเดียวกันในการเดินทางครั้งสำคัญของชาติในครั้งนี้

หลังจากนี้ไป สหราชอาณาจักรและอียู จะต้องเจรจากันในประเด็นซับซ้อนต่างๆ เช่น ร่างกฎหมายด้านการเงินการคลัง สถานะของพลเมืองอียูและสหราชอาณาจักรในต่างประเทศ รวมทั้งความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างสองฝ่าย

ด้านผู้นำกลุ่มอียู ซึ่งรวมถึง นายฌองคล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวก่อนหน้านี้ว่า จะไม่หาทางลงโทษสหราชอาณาจักรที่ถอนตัวออกจากอียู หลังจากเป็นสมาชิกมานาน 44 ปี พร้อมกล่าวว่า การประกาศใช้มาตรา 50 ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี และอียูเริ่มคิดถึงสหราชอาณาจักรเสียแล้ว

ด้านนายมิเชล บานิเยร์ หัวหน้าทีมเจรจาของคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า นี่คือวันแรกของการเดินทางอันยาวไกล และอียู จะหาข้อตกลงที่เป็นธรรมในระยะยาวสำหรับสมาชิก 27 ประเทศที่เหลืออยู่ของอียู

ส่วนนายกุนเธอร์ ออตติงเกอร์ คณะกรรมาธิการยุโรปจากเยอรมนี ระบุว่า การถอนตัวของสหราชอาณาจักรครั้งนี้ เป็นเรื่องเชิงลบต่อกลุ่มอียูโดยรวม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสหราชอาณาจักร