'คปภ.' ดันอินชัวร์รันส์บูโรปีนี้

'คปภ.' ดันอินชัวร์รันส์บูโรปีนี้

คปภ.ดันระบบ "อินชัวร์รันส์ บูโร" ปีนี้ หวังใช้เป็นฐานข้อมูลธุรกิจ เล็งหารือสมาคมวินาศภัยเชื่อมโยงระบบ

คปภ. ดันโครงการ “อินชัวร์รันส์ บูโร” หวังใช้เป็นฐานข้อมูลธุรกิจ เทียบชั้นต่างประเทศ คาดแล้วเสร็จในปีนี้ พร้อมเร่งจัดตั้งองค์กรวิจัยพัฒนาธุรกิจประกันวินาศภัย มั่นใจเสร็จทันต้นปีหน้า

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยภายหลังการประชุม ข้อมูลประกันภัยและการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยแห่งเอเชีย 2017 (Insurance Information Forum of Asia -IIRFA2017) ว่า การประชุม IIRFA 2017 เน้น ความสำคัญของการมีฐานข้อมูลกลางของอุตสาหกรรม ซึ่งในส่วนของธุรกิจประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทยและสำนักงานอัตราเบี้ยประกันภัย (IPRB) ได้ร่วมกับคปภ. ผลักดันให้เกิดโครงการ Insurance Bureau System ขึ้นภายในปีนี้ เพื่อให้มีฐานข้อมูลธุรกิจสมบูรณ์ เช่นเดียวกับในต่างประเทศ

สำหรับการจัดทำ อินชัวรันส์ บูโร เพื่อเป็นศูนย์กลางในการตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัย ซึ่งใช้ในการจัดเก็บสถิติธุรกิจประกันภัยอยู่แล้ว แต่ต้องปรับปรุงใหม่ให้จัดเก็บ ได้ในเชิงลึกมากขึ้นตามแบบฟอร์มที่กำหนดกันขึ้นมาใหม่

นายสุทธิพล กล่าวว่า หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมครั้งนี้ ทาง คปภ. จะหารือกับสมาคมประกันวินาศภัยไทย ว่าจะเพิ่มเครือข่ายหรือเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบ Insurance Bureau System อย่างไรต่อไป และที่สำคัญเห็นว่า ควรจะต้องมีกฎหมายเข้ามารองรับเรื่องการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวด้วยว่าข้อมูลส่วนไหนเปิดเผยต่อสาธารณะได้บ้างหรือส่วนไหนเป็นความลับ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและปลอดภัยทั้งการให้และใช้ข้อมูลร่วมกันอย่างบูรณาการ

ขณะเดียวกัน คปภ.เห็นว่า ควรมีองค์กรวิจัยและพัฒนาธุรกิจประกันวินาศภัย ที่แยกออกมาเป็นอิสระจากสมาคมฯ เช่นเดียวกับต่างประเทศในกลุ่มอาเซียนที่รูปแบบแยกกันชัดเจนและมีความเข้มแข็ง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการและนำแนวทางปฏิบัติจากต่างประเทศมาพิจารณาเพิ่มเติม

นอกจากนี้ความคืบหน้าแนวทางการจัดตั้งกองทุนประกันภัยต่อภาคการเกษตร ที่ได้เสนอคณะทำงานขับเคลื่อนการปฏิรูปการประกันภัยพืชผล นายสุทธิพล กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือ ซึ่งสำนักงานอัตราเบี้ยประกันภัย (IPRB) ได้ข้อสรุปหลังการศึกษาแล้วจะนำไปหารือกับภาคธุรกิจประกันวินาศภัยและภาครัฐต่อไป หากภาครัฐยังคงสนับสนุน

รวมทั้ง คปภ. อยู่ระหว่างการศึกษาขยายผลการรับประกันภัยไปยังพืชผลการเกษตรอื่นๆ ด้วย เช่น ผลไม้ ประมงและปศุสัตว์ หวังต่อยอดในโครงการรับประกันข้าวนาปีฤดูกาลเพาะปลูกรอบใหม่ปีนี้ จากปีก่อนขยายพื้นที่การรับประกันภัยถึง 20 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจากเดิมไม่ถึงล้านไร่

นายกี่เดช อนันต์ศิริประภา ผู้อำนวยการสมาคมประกันวินาศภัยไทย คาดว่า การจัดตั้ง สถาบันเพื่อการวิจัยและพัฒนาธุรกิจประกันวินาศภัย หรือ Thailand Insurance research development (ITRD) ขณะนี้ ทางสมาคมฯ อยู่ระหว่างดำเนินรวม 2 หน่วยงานด้านฐานข้อมูล ได้แก่ บริษัท ไทยอินชัวเรอส์ดาต้าเนท จำกัด (TID) ซึ่งมีพนักงานอยู่ 20 คน และสำนักงานอัตราเบี้ยประกันวินาศภัย (IPRB) ที่มีพนักงาน 10 คนเข้าด้วยกัน คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการได้ภายในสิ้นปีนี้หรืออย่างช้าต้นปี 2561

นางสาวจุฑาทอง จารุมิลินท เลขาธิการสำนักงานอัตราเบี้ยประกันวินาศภัย เปิดเผยว่า ในปีนี้ IPRB มีแผนจัดทำความร่วมมือเรื่อง เทคนิคการทำแบบจำลองความเสี่ยงภัย เช่น ภัยน้ำท่วมและภัยฉ้อฉล อีกทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยเกี่ยวข้องกับภาคสุขภาพและชีวิต รวมถึงภาคการเกษตรกับประเทศสมาชิก IIRFA และแนวทางการจัดตั้งกองทุนประกันภัยต่อภาคการเกษตร ที่ได้เสนอไว้ในคณะทำงานขับเคลื่อนการปฏิรูปการประกันภัยพืชผล โดยสานต่อการศึกษาโมเดลของเกาหลี คาดว่าอีก 1-2 เดือนนี้น่าจะลงนามบันทึกความร่วมมือกันได้ และหากได้ข้อสรุปหลังการศึกษาแล้ว จะได้นำไปหารือกับภาคธุรกิจประกันวินาศภัยและภาครัฐต่อไป