เน้นสะสมหุ้นหลัก

เน้นสะสมหุ้นหลัก

สรุปสภาวะตลาดสหรัฐ ฯ และยุโรป ( 9 มี.ค. 2560 – 15 มี.ค. 2560)

สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯปรับตัวขึ้น DJIA +0.45%, FTSE100 +0.46%, DAX 0.36%, CAC ฝรั่งเศส +0.50% แม้ว่าเฟดจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามตลาดคาด แต่ทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของช่วงที่เหลือโดยรวมยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

สรุปสภาวะตลาดหุ้นจีน ( 9 มี.ค. 2560 – 15 มี.ค. 2560)

ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้น +0.87% นำหลังบรรยากาศภาพรวมของตลาดเอเชียกลับมาดีขึ้นเมื่อ แม้ว่าเฟดจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามตลาดคาด แต่ทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของช่วงที่เหลือโดยรวมยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 9 มี.ค. 2560 – 16 มี.ค. 2560)

SET INDEX ปรับตัวลงกดดันโดยกลุ่มหุ้นกลุ่ม BIG CAP อาทิเช่น CPALL AOT และ กลุ่มพลังงาน ประกอบกับความผันผวนของหุ้น GL กดดันบรรยากาศภาพรวมของหุ้นกลุ่ม sMid-Cap แต่ราคาน้ำมันดิบ Nymex เกิด Technical Rebound หลังการประชุม FED ทำให้กลุ่มพลังงานกลับมาประคองบรรยากาศภาพรวมดัชนี ปิด ณ ที่ระดับ 1,557.05 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.32 จุด +0.70%

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (17-23 มี.ค.)

เราคงมุมมองต่อการลงทุนตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าเป็น “กลางถึงบวก” ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 พร้อมประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1,535-1,570 จุด ผลักดันด้วยหุ้น Big Cap อย่างกลุ่มพลังงาน /ปิโตรเคมี หลังผลการประชุมเฟดคืนวันที่ 15 มี.ค. เป็นไปตามที่คาดการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้อีก 2 ครั้ง แบบค่อยเป็นค่อยไป ประธานเฟดต้องการรอดูนโยบายการคลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกอบการตัดสินใจ ทำให้เงินทุนไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยง อย่างตลาดหุ้น / ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ นำโดยน้ำม้น

นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้า กลุ่มโอเปกจะมีการประชุมถึงแนวทางการลดกำลังการผลิต หลังประเทศสมาชิกอย่างไนจีเลีย และลิเบีย กลับมาเร่งการผลิตน้ำมันอีกครั้งในเดือนก.พ. จากปัญหาภายในประเทศ หากมีข้อตกลงร่วมกัน เชื่อว่าราคาน้ำมันดิบ NYMEX จะกลับมาทดสอบแนว US$53-55/barrel ได้ไม่ยากเช่นกัน เพราะทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าจะเป็นตัวสนับสนุนอีกด้านหนึ่ง

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ให้ถือพอร์ตระยะกลางถึงยาวที่เน้นสะสมหุ้นหลัก (Big Cap) ที่ให้ทยอยสะสมมาตลอด 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อรอขายทำกำไรรอบฟื้นตัวบริเวณ 1,590-1,600 จุด การกลับเข้าเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและเล็ก นักลงทุนจำเป็นต้องเน้นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งเป็นสำคัญ เพราะตัวแปรสำคัญคือ การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น GL อาจกำหนด Sentiment ของการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กตัวอื่นๆ เหมือนที่เกิดขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า

1. ติดตามผลการพิจารณาของสภาคองเกรสสหรัฐฯ กับการขยายเพดานก่อหนี้สาธารณะในวันที่ 16 มี.ค. อาจเป็นไปได้ที่จะมีการนัดหารือ / พิจารณาเพิ่มเติมในสัปดาห์ถัดไป

2. ติดตามขั้นตอนการ Brexit ของรัฐบาลอังกฤษ หลังสภาผ่านกฎหมาย Brexit ไปในวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา

3. การประชุมครม.กับการพิจารณาโครงการรถไฟรางคู่ และ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ที่รอเสนอครม.

4. ติดตามตัวเลเศรษฐกิจอื่นๆ ที่สำคัญ ได้แก่ ดุลการค้าของญี่ปุ่น / ราคาบ้านใน 70 เมือง หลักของจีน / ยอดขายบ้านมือสอง – บ้านใหม่ ของสหรัฐฯ / ดัชนี PMI ภาคการผลิต –
บริการของอียู