QH - ซื้อ

QH - ซื้อ

แจ้งกำไรปี 59 ลดลง 1% คาดกำไรปี 60 พลิกเติบโตราว 18%

ประเด็นสำคัญในการลงทุน :

- รายงานกำไรสุทธิปี 59 ลดลงเล็กน้อย 1%YoY : ปี 59 มีกำไรสุทธิ 3,085 ล้านบาท ลดลง 1%YoY โดยมีรายได้จากการขายลดลง 7% เหลือ 1.9 หมื่นล้านบาทเนื่องจากมีโครงการคอนโดฯที่โอนเหลือ 3 โครงการเทียบกับ 6 โครงการในปี 58 และมีการเลื่อนเปิดโครงการใหม่ที่จะเปิดในช่วง 4Q59 Gross margin ลดเหลือ 30% จาก 31% ในปี 58 แต่ Net margin ปรับดีขึ้นเป็น 16% จาก 15% ในปี 58 จากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีและดอกเบี้ยจ่ายลดลง ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม (HMPRO LHBANK QHPF QHHR) เติบโต 29% โดยมีรายการหลักเป็นส่วนแบ่งกำไรจาก LHBANK ที่เติบโตสูง 63% เป็น 576 ล้านบาทในปี 59

- แผนงานปี 60 เน้นปรับสมดุลโครงการแนวราบและแนวสูง : ปี 60 ผู้บริหารตั้งเป้ายอดโอนที่รับรู้เป็นรายได้ราว 1.9 หมื่นล้านบาท เป้ายอดขาย presale 1.8 หมื่นล้านบาท โดยมีแผนเปิดโครงการใหม่ราว 10 โครงการมูลค่ารวมราว 1.15 หมื่นล้านบาท เติบโต 28% จากปี 59 โดยจะเปิดใหม่เฉพาะโครงการแนวราบในกทม.และปริมณฑลในรูปแบบใหม่ “Q District” ซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่ช่วยประหยัดเงินลงทุนด้านสาธารณูปโภค มีโครงการหลากหลายประเภท รวมทั้งมีแผนเร่งระบายสต๊อกคอนโดฯพร้อมขายและโครงการคอนโดฯที่เปิดขายอยู่แล้วซึ่งมีมูลค่าขายคงเหลือ 1.58 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้มีแผนปรับโมเดลการขายคอนโดฯหรู “คิว สุขุมวิท” สร้างทางเชื่อมต่อ BTS สถานีสุขุมวิทเพื่อกระตุ้นยอดขาย

- คาดกำไรปี 60 พลิกเติบโต 18% : ฝ่ายวิจัยประมาณการรายได้จากการขายปี 60 จะเติบโตราว 7% เป็น 1.6 หมื่นล้านบาท ต้นปีมี backlog ราว 6 พันล้านบาทแบ่งเป็นคอนโดฯ 5.4 พันล้านบาท แนวราบ 0.6 ล้านบาท ด้วยสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นรวมทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่ล้วที่ราว 30% คาดส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง 4% บนสมมติฐานการ dilute สัดส่วนการถือหุ้น LHBANK หลังควบรวมกิจการกับธนาคารในไต้หวันสำเร็จ ทำให้ประมาณการกำไรปี 60 อยู่ที่ราว 3.6 พันล้านบาทพลิกเติบโต 18% สำหรับแนวโน้มกำไร 1Q60 คาดว่าจะอ่อนตัว QoQ และ YoY

- คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 3.40 บาท : จุดเด่นของ QH อยู่ที่มูลค่าเงินลงทุนที่ช่วยความมั่งคั่งให้กับบริษัทโดยลงทุนใน HMPRO 20% LHBANK 22% QHPF 26% และ QHHR 31% ในการประเมินราคาเหมาะสมซึ่งอิง Prospect PER ที่ระดับ 10 เท่าได้ราคาเหมาะสมเท่ากับ 3.40 บาทซึ่งยังมีอัพไซต์จากราคาปิดล่าสุด และมูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่อหุ้น (NAV) เท่ากับ 4.55 บาทต่อหุ้นยังสูงกว่าราคาปิดล่าสุด ขณะที่ความน่าสนใจของหุ้นอยู่ที่ dividend yield ราว 6-7% ต่อปี บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 2H59 หุ้นละ 0.08 บาท XD 24 เม.ย. วันจ่าย 12 พ.ค. ทำให้ฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำ “ซื้อ”