ค่าบาท 'แข็งค่า' มองโอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ยลดลง

บาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ 34.87บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดตลาดสัปดาห์ก่อน หลังโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเฟดลดลง ขณะที่สัปดาห์นี้จับตาตัวเลขส่งออก ละเงินเฟ้อไทย

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 34.87 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับ 34.94 บาทในสิ้นสัปดาห์ก่อนซึ่งเป็นการปรับตัวแข็งค่าตามค่าเงินในภูมิภาค หลังโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยเดือนมีนาคมของเฟดยังทรงตัวที่ 40% และบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ10ปีกลับลงมาที่ระดับ 2.31%

สัปดาห์นี้แนะนำจับตาที่ตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่จะมีการรายงานตัวเลขส่งออกในวันจันทร์และเงินเฟ้อในวันพุธ ในส่วนของตัวเลขการค้าตลาดมองการส่งออกจะเติบโต 8.75% ขณะที่การนำเข้าจะเพิ่มขึ้น 12.35% ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ชี้ว่าการค้าโลกเริ่มฟื้นตัว ด้านเงินเฟ้อตลาดมองจะปรับตัวขึ้น 1.53% ในเดือนกุมภาพันธ์ใกล้เคียงกับเดือนมกราคมที่ 1.55% จากแรงสนับสนุนของราคาสินค้าพลังงาน

ขณะที่เศรษฐกิจต่างประเทศแนะนำจับตาดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐ (ISM Manufacturing PMI) ที่ตลาดมองว่าจะยังมีแนวโน้มขาขึ้น (สูงกว่า 56จุด) ชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐกลับมามีหวังเติบโตอีกครั้งหลังโดนัลด์ ทรัมป์เข้ามาเป็นประธานาธิปดี จากตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าวค่าเงินบาทจึงยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าต่อจากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขณะที่การกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงคลุมเครือ

กรอบค่าเงินในสัปดาห์นี้ที่ระดับ 34.70-35.10 บาทต่อดอลลาร์

มองกรอบค่าเงินระหว่างวันที่ระดับ 34.82-34.92 บาทต่อดอลลาร์

ช่วงเช้านี้บาทแข็งสุดรอบ4เดือนที่34.85บาทต่อดอลลาร์ ปรับฐานอีกรอบก่อนทรัมป์แถลงการณ์ 28กพ. นี้

นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย กลุ่มงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วงเช้านี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นทดสอบระดับ 34.85 บาทต่อดอลลาร์ ทำสถิติแข็งค่าสุดในรอบ 4 เดือน ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ เพื่อปรับโพสิชั่นก่อนกำหนดการแถลงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 28 ก.พ.

สำหรับกรอบความเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ คาดไว้ที่ 34.80-35.00 บาทต่อดอลลาร์โดยตลาดน่าจะยังมีจุดสนใจอยู่ที่ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ที่อาจมีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการลดภาษี และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่อสภาคองเกรสในวันพรุ่งนี้ ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในวันนี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย