'อธิบดี ปภ.' เร่งช่วยเหลือ7จว.ใต้น้ำท่วมขัง สลดดับ83

'อธิบดี ปภ.' เร่งช่วยเหลือ7จว.ใต้น้ำท่วมขัง สลดดับ83

“ฉัตรชัย” เร่งช่วยเหลือ 7 จว.ใต้น้ำท่วมขัง สลดดับ 83 ราย เตือน 9 จังหวัดลุ้นเจอฝนซ้ำ - ดินสไลด์

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ว่า ฝนที่ตกหนักตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดอุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีจังหวัดได้รับผลกระทบ 12 จังหวัด รวม 122 อำเภอ 755 ตำบล 5,812 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 563,616 ครัวเรือน 1,725,714 คน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 83 ราย ผู้สูญหาย 4 ราย ถนน 4,314 จุด คอสะพาน 348 แห่ง ท่อระบายน้ำ 243 แห่ง ฝาย 126 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง สถานที่ราชการเสียหาย 25 แห่ง โรงเรียน 2,336 แห่ง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายอยู่ระหว่างการฟื้นฟู 5 จังหวัด ได้แก่ ระนอง กระบี่ ตรัง ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ ยังคงมีสถานการณ์ใน 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง ยะลา สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส รวม 38 อำเภอ 205 ตำบล 1,159 หมู่บ้าน โดยจ.นครศรีธรรมราช มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหัวไทร อำเภอปากพนัง และอำเภอเชียรใหญ่ รวม 38 ตำบล 337 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 49,731 ครัวเรือน 167,963 คน อพยพ 35 ครัวเรือน 175 คน ผู้เสียชีวิต 25 ราย จ.สุราษฎร์ธานี

มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพุนพิน อำเภอเคียนซา และอำเภอบ้านนาเดิม รวม 11 ตำบล 28 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,851 ครัวเรือน 5,727 คน ประชาชนอพยพ 55 ครัวเรือน 185 คน ผู้เสียชีวิต 15 ราย จ.พัทลุง มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอควนขนุน อำเภอบางแก้ว อำเภอเขาชัยสน และอำเภอเมืองพัทลุง รวม 7 ตำบล 20 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 27,274 ครัวเรือน 64,018 คน ผู้เสียชีวิต12 ราย                                    

อธิบดีปภ. กล่าวต่อว่า ด้านจ.ยะลา มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองยะลา อำเภอรามัน และอำเภอยะหา รวม 24 ตำบล 109 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,307 ครัวเรือน 13,881 คน อพยพ 49 ครัวเรือน ขณะที่จ.สงขลา มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอควนเนียง อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสิงหนคร อำเภอสทิงพระ และอำเภอระโนด รวม 15 ตำบล 82 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,880 ครัวเรือน 26,715 คน ผู้เสียชีวิต 8 ราย จ.ปัตตานี                         

อธิบดี ปภ. กล่าวด้วยว่า มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอมายอ อำเภอแม่ลาน อำเภอปะนาเระ อำเภอสายบุรี อำเภอไม้แก่น และอำเภอโคกโพธิ์ รวม 44 ตำบล 175 หมู่บ้าน 6 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,657 ครัวเรือน 15,897 คน อพยพประชาชน 17 คน และจ.นราธิวาส มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอตากใบ อำเภอบาเจาะ อำเภอยี่งอ อำเภอระแงะ อำเภอรือเสาะ อำเภอศรีสาคร อำเภอแว้ง อำเภอสุคิริน อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงปาดี อำเภอจะแนะ และอำเภอเจาะไอร้อง รวม 66 ตำบล 408 ประชาชนได้รับผลกระทบ 30,212 ครัวเรือน 111,691 คน อย่างไรก็ตาม ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ตลอดจนเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยที่ครอบคลุมทั้งด้านการดำรงชีพ ชีวิตและทรัพย์สิน การประกอบอาชีพ และสิ่งสาธารณประโยชน์                          

“การติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุม อ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ส่งผลให้ช่วงวันที่ 22 – 25 มกราคมนี้ จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในภาคใต้ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขณะเดียวกันทางกรมทรัพยากรธรณีคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 21 - 22 มกราคม อาจเกิดดินถล่ม ดินไหล และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลุ่มน้ำตาปี ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออก ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันตก และลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา จึงได้ประสาน 9 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 12 สงขลา เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนัก และฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที สำหรับผู้ประกอบการทางน้ำและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 2 – 3 วัน” นายฉัตรชัย กล่าว