พยาน'ครูจอมทรัพย์' ผวากลัวถูกอุ้ม หลังยันคนขับรถเป็นชาย

เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครพนม ว่าหลังจากที่นางทองเรศ วงศ์ศรีชา วัย 51 ปี อาชีพทำนา ซึ่งเป็นเพื่อนของนางทัศนีย หาญพยัคฆ์ อายุ 61 ปี ซึ่งเป็น 1 ในพยานปากเอกที่เห็นเหตุการณ์ขณะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ และพบเห็นนายเหลือ พ่อบำรุง ถูกรถชนตาย อีกทั้งยังไปเป็นพยานในชั้นศาลครั้งแรกและครั้งเดียวพร้อมกับนางทัศนีย์ให้กับนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ที่ถูกกล่าวหาว่าขับรถชนคนตาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มี.ค.2548 นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด นางทองเรศ ได้เปิดเผยว่า หลังตกเป็นข่าวว่าเป็น 1 ใน 2 และพยานปากเอกที่เคยไปให้การชั้นศาลคดีครูจอมทรัพย์ เมื่อหลายปีก่อน ตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา มีนักข่าวโทรทัศน์จากหลายช่อง เดินทางมาสัมภาษณ์ตนถึงบ้านพัก ก่อนนำไปออกอากาศ และยังมีรายการโทรทัศน์ข่าวรายการหนึ่ง โทรศัพท์มาถามเรื่องที่ตนไปขึ้นศาลพร้อมกับนางทัศนีย์

“ดิฉันก็ให้สัมภาษณ์สดออกอากาศยืนยันคำเดิมว่า คนขับรถชนนายเหลือจนเสียชีวิต เป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง สวมเสื้อแขนยาว สวมใส่รองเท้าหนัง หลังขับรถชนแล้ว ก็เปิดประตูฝั่งคนขับลงจากรถมาสักพัก ก่อนขึ้นรถเร่งเครื่องหลบหนีไป นักข่าวจะถามกี่ครั้งก็บอกไปว่าคนที่เปิดประตูรถเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง ซึ่งก็เป็นไปตามที่ให้การในชั้นศาลไปแล้ว” นางทองเรศ กล่าวย้ำ

เมื่อถามว่า หลังข่าวออกสื่อทีวีหลายช่องกลัวอะไรหรือไม่ นางทองเรศ บอกว่า ก็กลัวเรื่องที่ให้ข่าวไปอยู่เหมือนกัน เพราะต้องอาศัยอยู่บ้านคนเดียว ส่วนสามีเสียชีวิตตั้งแต่ปี 2540 มีลูก 2 คน คนหนึ่งก็แยกไปมีครอบครัว ส่วนลูกคนเล็กเป็นมือตีกลองก็ต้องตระเวนไปเล่นดนตรีในสถานที่ต่างๆ โดยหลังจากที่ให้ข่าวกับสื่อมวลชนที่มาถามย้ำคำถามเดิมๆ ก็บอกไปตามที่ได้พบได้เห็นไปแล้ว และยังยกมือสาบานแล้วสาบานอีก

ยอมรับหลังพูดกับผู้สื่อข่าวแล้วยังหวาดผวา ช่วงกลางคืนต้องคอยระมัดระวังและอยู่แต่ในบ้าน ไม่กล้าเดินเพ่นพ่านออกไปไหน เพราะกลัวคนมาอุ้มไปทำร้าย เมื่อสื่อถามต่อว่า หากมีคนเชิญไปออกรายการทีวีในกรุงเทพฯ จะไปหรือไม่ นางทองเรศปฏิเสธว่าไม่ไปเด็ดขาขออยู่บ้านดีกว่าเพราะหวั่นวิตกในความปลอดภัยในชีวิต