'นิโคล เดวิด' ราชินีสควอชโลก

'นิโคล เดวิด' ราชินีสควอชโลก

แม้ สควอช จะยังไม่ได้รับการพิจารณาบรรจุเข้าสู่โอลิมปิก เกมส์ โดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี

 แต่ก็นับเป็นอีกชนิดกีฬายอดนิยมในหลายประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มคอมมอนเวลธ์

หนึ่งในนั้น คือบ้านใกล้เรือนเคียงของเราอย่าง มาเลเซีย ที่มีสุดยอดผู้เล่น ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น “เซเรนา วิลเลียมส์ แห่งวงการสควอช” นิโคล แอนน์ เดวิด ผู้เคยครองตำแหน่งมือหนึ่งโลกยาวนานถึง 9 ปี

สควอช vs เทนนิส

สควอช และ เทนนิส ต่างมีรากฐานจาก “แร็คเก็ตส์” กีฬาเก่าแก่ในสหราชอาณาจักรที่ถูกพัฒนาขึ้นในศตวรรษที่ 18 เพื่อให้นักโทษได้ออกกำลังกาย และผ่อนคลาย ด้วยการตีบอลยางใส่กำแพงหรือผนังในเรือนจำ ก่อนจะพัฒนามาเป็น สควอช ในเวลาต่อมา ขณะที่เทนนิสก็ถูกพัฒนาไปอีกสาย เพื่อเล่นกับนักกีฬาที่อยู่อีกฟากของคอร์ทแทน

โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ แชมป์แกรนด์สแลม 17 สมัยชาวสวิตเซอร์แลนด์ ก็มีพื้นฐานของสควอชเช่นกัน และเคยแสดงความเห็นสนับสนุน ให้กีฬาชนิดนี้ถูกบรรจุเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์ด้วย

“สมัยเด็ก ผมเล่นสควอชกับพ่อทุกวันอาทิตย์ และก็ติดตามกีฬาชนิดนี้มาตลอด น่าเสียดายที่กีฬาหลายชนิดไม่ได้บรรจุในโอลิมปิก เพราะผมคิดว่า สควอช สมควรได้รับโอกาสนี้”

แรงหนุน

นอกจากความตั้งใจในการผลักดันกีฬาสควอชเข้าสู่ โอลิมปิก เหมือนกัน ทั้ง เฟเดอเรอร์ และ เดวิด ยังถือเป็นนักกีฬาที่อยู่บนจุดสูงสุดในวงการของตนมานานเกือบสองทศวรรษ และยังไม่วี่แววที่จะแขวนแร็กเก็ตในเวลาอันใกล้

ในมาเลเซีย สควอช เป็นชนิดกีฬาที่ได้รับการยอมรับอย่างสูง ด้วยเหตุนี้ เดวิด ที่คว้าแชมป์รายการต่างๆในรัฐปีนัง ตั้งแต่อายุยังไม่ครบ 10 ขวบ จึงได้รับการทาบทามจากแมวมอง เพื่อผลักดันสู่เส้นทางสายนี้อย่างจริงจัง และก็ได้รับการสนับสนุนอย่างดี จาก เดสมอนด์ เดวิดพ่อของเธอซึ่งเป็นอดีตผู้รักษาประตูของทีมฟุตบอลปีนัง 

และด้วยเงินสนับสนุนจากภาครัฐ เดวิด ได้รับโอกาสให้เดินทางไปฝึกซ้อมที่อัมสเตอร์ดัม โดยมี ลิซ เออร์วิง ทำหน้าที่โค้ช กระทั่งคว้าแชมป์ “เวิลด์ จูเนียร์ สควอช แชมเปียนส์ชิพ” ที่เบลเยียม มาครองได้ ขณะอายุเพียง 15 ปี ก่อนเทิร์นโปรอย่างเป็นทางการในปีถัดมา

ทุกวันนี้ เดวิด ยังได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐ และสปอนเซอร์ในการตระเวนเดินทางไปแข่งขันตามที่ต่างๆ พร้อมกับโค้ชและนักกายภาพประจำตัว เพื่อเดินหน้าทำในสิ่งที่ตนรักต่อไป 

ดาวค้างฟ้า

แม้จะไม่ประสบความสำเร็จมากนักในช่วงแรกของการเล่นอาชีพ แต่ในปี 2005 เดวิด ก็ถึงคราวตกผลึก คว้าแชมป์รายการใหญ่อย่างต่อเนื่อง ทั้ง เวิลด์เกมส์ ที่เยอรมนี, มาเลเซียน โอเพน สควอช แชมเปียนชิพ, เวิลด์ โอเพน และ บริทิช โอเพน โดยเฉพาะรายการหลังสุดที่ได้รับการบันทึกว่าเป็นนักกีฬาจากเอเชียคนแรกที่ได้แชมป์อีกด้วย

กระทั่งในเดือนม.ค. 2006 เดวิด ก็กลายเป็นนักกีฬาจากมาเลเซีย และเอเชียคนแรกที่ขึ้นเป็นมือหนึ่งโลกของสมาคมนักสควอชหญิงนานาชาติ หรือ WISPA 

นับแต่นั้น เดวิด ก็เดินหน้ากวาดความสำเร็จมาครองมากมาย ทั้ง แชมป์โลก 8 สมัย, แชมป์ คอมมอนเวลธ์ เกมส์ 2 สมัย และ เอเชียนเกมส์ 4 สมัย รวมถึงอยู่ในตำแหน่งมือหนึ่งโลกติดต่อกันนานถึง 108 เดือน ก่อนจะเสียให้กับ รานีม เอล วีไวลีย์ จากอียิปต์ ไปเมื่อกลางปี 2015 

เป้าหมายต่อไป

“สิ่งที่ฉันได้จากกีฬานี้ คงไม่มีทางหาได้จากไหนอีก” เดวิด ซึ่งอยู่ในวงการมาเป็นปีที่ 17 กล่าว “คุณต้องอยู่ในวงการนี้ถึงจะเข้าใจ การเตรียมตัวและการซ้อมทั้งหมดเพื่อทำผลงานให้ดีที่สุดเพียงครั้งเดียว คือสิ่งที่นักกีฬาทุกคนต้องทำ”

ปัจจุบัน เดวิด อยู่ในอันดับ 7 ของโลก และต้องขับเคี่ยวกับบรรดาคลื่นลูกใหม่ที่ก้าวขึ้นมาท้าทายรุ่นพี่ในวงการ โดยเฉพาะบรรดานักกีฬาจากอียิปต์ที่ปัจจุบันแทบจะยึดหัวหาดในกลุ่มท็อปเทนของโลกไว้ ทั้งในประเภทชายและหญิง รวมถึง นูร์ เอล เชอร์บินี มือหนึ่งโลกคนปัจจุบันที่อายุน้อยกว่าเธอถึง 12 ปี  

“คนอียิปต์คลั่งไคล้สควอชมาก เด็กๆทุกคนอยากเป็นแชมป์โลก เพราะมันหมายถึงรายได้ มีชีวิตที่ดีขึ้น และเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ” เดวิด กล่าวถึงยุคใหม่ของวงการสควอช ที่เธอเชื่อว่ามีมาตรฐานที่สูงขึ้น จนเธอไม่ “ไร้เทียมทาน” เหมือนเดิมอีกต่อไป

“เทียบกับตอนฉันได้แชมป์โลกครั้งแรกเมื่อ 12 ปีก่อน ถ้าฉันเล่นด้วยมาตรฐานนั้น ตอนนี้ฉันอาจไม่ผ่านกระทั่งรอบคัดเลือกด้วยซ้ำ ฉันยังเชื่อว่าตัวเองพัฒนาขึ้นในแต่ละปีจากสิ่งที่ได้เรียนรู้ และตราบใดที่ร่างกายของฉันยังไหวอยู่ ฉันก็จะเล่นต่อ ถ้าใจยังสู้และมีไฟที่จะตื่นเช้าขึ้นมาซ้อม ฉันเชื่อว่าทุกคนสามารถยืนระยะได้เท่าที่ต้องการ"  

นอกจากการรักษาสภาพร่างกายเพื่ออยู่ในวงการให้นานที่สุด อีกหนึ่งเป้าหมายของราชินีแห่งวงการสควอด คือการผลักดันให้ สควอช ได้รับการบรรจุเข้าสู่โอลิมปิก แม้จะล้มเหลวมาแล้วถึงสามครั้งก็ตาม แต่ เดวิด ก็ยังยืนยันจะเดินหน้าต่อ และหวังว่าจะประสบความสำเร็จในซักวันหนึ่ง

“ฉันรู้ว่ามันอยู่เหนือการควบคุมของเรา ฉะนั้น เราจะทำในส่วนที่เราทำได้ นั่นคือพยายามกันต่อไป”