คปภ.เพิ่มอีก 6 มาตรการประกันภัยเร่งเยียวยาภาคใต้

คปภ.เพิ่มอีก 6 มาตรการประกันภัยเร่งเยียวยาภาคใต้

คปภ. เพิ่ม 6 มาตรการด้านประกันภัยเร่งเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จ.พัทลุง จ.นราธิวาส จ.ยะลา จ.สงขลา จ.ปัตตานี จ.ตรัง จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.ชุมพร จ.ระนอง จ.กระบี่ และจ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบต่อชีวิต ทรัพย์สิน และพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก 

"คปภ. มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ ดังนั้นเพื่อเป็นการใช้ระบบประกันภัยในการช่วยเหลือประชาชนแบบบูรณาการให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ นอกเหนือจากที่ได้มีหนังสือสั่งการไปยังสำนักงาน คปภ.ภาค 8 (สุราษฎร์ธานี) และภาค 9 (สงขลา) ที่ดูแลพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้ให้ดำเนินการช่วยเหลือไปแล้ว ยังได้เพิ่ม 6 มาตรการด้านประกันภัย เพื่อเร่งบูรณาการเยียวยาผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้"

สำหรับ 6 มาตรการ ประกอบด้วย มาตรการที่ 1 คือการแต่งตั้งคณะทำงานช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย และผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยมีคณะทำงานที่ประกอบไปด้วย ตัวแทนของสำนักงานคปภ. และตัวแทนของภาคอุตสาหกรรมประกันภัย เพื่อประสานความร่วมมือด้านข้อมูลการจัดทำประกันภัยของผู้ประสบภัย ประสานงานการสำรวจภัยและการประเมินความเสียหาย รวมทั้งรวบรวมข้อมูลความเสียหาย ประสานติดตาม เร่งรัด ให้มีการชดใช้ค่าสินทดแทน รวดเร็ว ถูกต้องและเป็นธรรม รวมทั้งประสานให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านอุปโภคบริโภคและสิ่งจำเป็นในการดำรงชีพให้แก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมในครั้งนี้

มาตรการที่ 2 ที่ได้เริ่มดำเนินการแล้วคือการสั่งการให้บริษัทประกันภัยสรุปรายงานความเสียหายและการจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ส่งให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงานคปภ.ทุกวันศุกร์ ทางอีเมล์ พร้อมจัดส่งรายชื่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบและเบอร์ติดต่อ บริษัทละ 2 คน ทั้งนี้เพื่อให้การประสานงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ยังได้ออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 1 / 2560 ผ่อนผันเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัยทางภาคใต้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้เอาประกันภัยในกรณีประกันชีวิตในพื้นที่ดังกล่าว อีก 3 มาตรการช่วยเหลือ ได้แก่ มาตรการที่ 3 ขยายระยะเวลาการผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัยให้กับผู้เอาประกันภัยจากเดิม 31 วัน เป็นไม่เกิน 91 วัน 

มาตรการที่ 4 ยกเว้นดอกเบี้ย และงดการตรวจสุขภาพในกรณีต่ออายุกรมธรรม์เป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน นับแต่วันที่กรมธรรม์ประกันภัยหมดอายุ มาตรการที่ 5 ในการยกเว้นดอกเบี้ยการชำระคืนเงินกู้ชำระเบี้ยประกันภัยโดยอัตโนมัติภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่ครบกำหนดชำระ

ส่วนมาตรการที่ 6 ภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยออกประกาศสำนักงานคปภ.อนุญาตให้ตัวแทนประกันชีวิต ตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันชีวิต นายหน้าประกันวินาศภัยในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้ที่เกิดเหตุอุทกภัยที่ใบอนุญาตสิ้นอายุตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 สามารถขอขยายระยะเวลาพร้อมขอต่ออายุใบอนุญาตได้ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่เหตุการณ์ที่จำเป็นสืบเนื่องจากเหตุอุทกภัยนั้นได้สิ้นสุดลง

สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินที่ทำประกันภัยไว้ โดยข้อมูล ณ. (วันที่ 12 มกราคม 2560) ตามที่บริษัทประกันภัยรายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับความเสียหายของรถยนต์ที่ทำประกันภัยไว้มีจำนวน 749 คัน ประเมินความเสียหายประมาณ 94.78 ล้านบาท

"ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนใน 12 จังหวัดภาคใต้ เป็นเรื่องที่คนไทยทั้งประเทศไม่อาจนิ่งดูดาย สำนักงานคปภ.จะใช้สรรพกำลังและเครือข่ายภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้อย่างเต็มที่” ดร.สุทธิพล กล่าวในที่สุด