เรื่องที่'ประยุทธ์'ต้องทำ! หากจะเป็นสะพานที่พร้อมให้ปชช.ข้าม

ได้ฤกษ์ขึ้นปีไก่ 2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศชัดทันที ขอให้เป็น “ปีแห่งการปฏิรูป” ทุกอย่างที่ได้ทำไปต้องมีดอกผลออกมาบ้าง เพราะใช้เวลาถางหญ้า รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย มาเยอะแล้ว และวาระแห่งการขึ้นปีใหม่นี้

มาพร้อมกับบทเพลงใหม่ “สะพาน” โดยเปรียบว่ารัฐบาลขอเป็นสะพาน เพื่อพาประชาชนไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับสายน้ำเชี่ยวกราก แต่สะพานนี้มิอาจจะก้าวแย่งกันก้าวข้ามเพราะจะแย่งเหยียบกันวุ่นวายเสียก่อน จึงต้องมาพร้อมกับการจัดระเบียบที่ถูกต้องด้วย

สำหรับงานด่วนที่สุดที่ต้องแก้รับศักราชใหม่ตอนนี้ ก็คือปัญหา “อุทกภัย” ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่ง “บิ๊กตู่” เองก็บินด่วนลง จ.นราธิวาส ดูปัญหาทันที พร้อมใช้โอกาสนี้ประชุมในเรื่องความมั่นคง และเศรษฐกิจในพื้นที่ไปด้วย แม้นายกฯ เองจะบอกหลังลงพื้นที่ว่าสามารถทำงานได้ทุกที่ แต่การจะไปที่ใดนั้นก็ไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ในหลายฝ่ายต้องทำงานเหนื่อย แต่กระนั้นการขยับลงไปดูปัญหาแบบรวดเร็ว และการแก้ปัญหาอุทกภัยที่เวียนแวะมาหาชาวไทยในทุกปี คืองานที่พิสูจน์และตัดเกรดของรัฐบาลในแต่ละขวบปีได้

ทั้งนี้ ยังมีอีกโจทย์ร้อนที่ต้องลงมือแก้ให้เห็นผลจริงๆ เสียทีก็เรื่องของการ “ปรองดอง” ที่ตั้งแต่ยึดอำนาจในปี2557นั้น คสช.ก็พยายามเดินหน้าผลักดันมาโดนตลอด ก่อนจะมีคณะปฏิรูปทั้งสปช.ในอดีต และสปท.เข้ามาร่วมคิดร่วมทำ แต่ ณ ขณะนี้ก็ยังเป็นเพียงภาพเบลอ ซึ่งแน่นอนงานนี้ไม่ง่าย

แม้จะมีสัญญาณจาก สปท. เรียกร้องให้ นายกฯ ใช้ ม.44 นิรโทษกรรม เพื่อฝ่าทางตันสร้างปรองดอง แต่ดูเหมือนจะถูกส่ายหน้าปฏิเสธตั้งแต่หัววัน โดย "บิ๊กตู่" บอกว่า ใครจะเสนออะไรก็เสนอมา แต่อย่ามายุ่งกับ ม.44 และที่สำคัญคือสังคมต้องรับได้ ทำให้การแก้โจทย์นี้ก็ยังคงวนเวียนคลำทางออกกันไป

ส่วนเรื่อง “การเลื่อนโรดแม็พ” ออกไปที่มีการพูดมาตั้งแต่เริ่มเข้าปีใหม่หลังมีการหลุดปากจากสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. ทำให้ “บิ๊กตู่” ก็ยืนยันว่ามาไม่มีเจตนาต้องเลื่อน

"หลายประเทศที่มาพบผมเข้าใจเรื่องงานการเมืองว่าโรดแม็พคืออะไร โรดแม็พคือการเลือกตั้ง คำว่าเลือกตั้งคือเริ่มกระบวนการเลือกตั้ง การหาเสียง และนำไปสู่การจัดการเลือกตั้งที่ได้รัฐบาลซึ่งใช้เวลาพอสมควร สุดแล้วแต่ว่าเวลาตรงไหนก็ตรงนั้น ผมไม่เคยเลื่อน”

นายกฯ ย้ำเรื่องขั้นตอนตามโรดแมพว่า “ทุกคนต้องเข้าใจว่าขั้นตอนของโรดแมพคืออะไร คือ ต้องมีรัฐธรรมนูญ มีกฎหมายลูก ซึ่งมีกรอบเวลาอยู่แล้ว ถ้าทำเกินกรอบเวลาแสดงว่าทำไม่ทัน ถ้าทำเร็วก็แสดงว่าทำทัน และจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนทางการเมืองในการเลือกตั้ง”

เรื่องหนึ่งที่รัฐบาล คสช. เน้นเป็นพิเศษในช่วงเข้าสู่ปลายโรดแม็พนั้นก็คือในเรื่อง “ปากท้องของประชาชน” ที่ตอนนี้เหมือนกับส่งแรงกดดันถึงรัฐบาลมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนายกฯเอง ก็ต้องการให้เห็นว่าแก้อย่างอื่นได้อีกนอกจากเรื่องความสงบเรียบร้อย และเมื่อดูจากการที่ “บิ๊กตู่” พูดตามเวทีพบปะประชาชนต่างๆแล้วนั้นพยายามจะสื่อและสร้างความเข้าใจในแนวทางของตัวเองที่กำลังทำในด้านการพัฒนาแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นพิเศษด้วย

อีกทั้งเมื่อดูจากการปรับทัพครม. “ประยุทธ์4” ล่าสุดนั้น ดูเหมือนว่านายกฯ จะเชื่อมั่นและมอบตำแหน่งกระบี่มือหนึ่งให้ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกฯ นำทีมในการลุยงานเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ เพื่อรบคำปรามาสว่ารัฐบาลทหารนั้นบ่มิไก๊เรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งนายกฯเองก็เน้นย้ำเรื่องการสร้างความเข้าใจจากหน่วยงานรัฐไปถึงประชาชนอย่างเต็มที่

เพราะหากรัฐบาลบิ๊กตู่ ทำเรื่องเศรษฐกิจปากท้องให้ประชาชนพอใจได้ ก็คงหวังให้ “สะพาน” นี้ ทอดไปจนสุดทางอย่างสวยงาม อาจมีเสียงเรียกหาในอนาคต แต่หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว คงเพียงแค่จำต้องข้ามไปเพื่อหวังไปเสี่ยงกับอะไรข้างหน้าที่ปลายทางเสียดีกว่า!!