แฉทุจริตสอบ 'นายสิบตำรวจ' ใช้วิธีโบราณ

แฉทุจริตสอบ 'นายสิบตำรวจ' ใช้วิธีโบราณ

ตำรวจแฉทุจริตสอบ "นายสิบ"ใช้วิธีโบราณ เล็งขึ้นแบล็คลิสต์คนโกง ห้ามเข้าสอบตำรวจตลอดไป

พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รรท.รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ในฐานะที่ตนกำกับดูแลงานด้านศึกษาอบรม ได้สอบถามข้อเท็จจริงเบื้องต้น ไปยัง พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผบช.กองบัญชาการศึกษาและทางนครบาลแล้ว เพื่อให้รายงานข้อมูลเบื้องต้น ทางกองบัญชาการศึกษา ยืนยันว่า กระบวนการออกข้อสอบ แจกจ่ายข้อสอบรัดกุม ไม่มีช่องให้ทุจริตแน่นอน โดยครั้งนี้เป็นการให้ทางกองบัญชาการต้นสังกัดจัดสอบเอง กระบวนการในการออกข้อสอบ จัดสอบก็รัดกุม ทั้งนี้ สั่งการให้นครบาลตั้งคณะกรรมการภายในหน่วยขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และอาจต้องพิจารณาตั้งคณะกรรมการระดับ ตร.ขึ้นมาตรวจสอบ ยืนยันว่าการตรวจสอบอย่างเป็นธรรม จะไม่ยอมให้คนที่มีประวัติเปื้อนเปรอะ มาสวมเครื่องแบบตำรวจเด็ดขาด เราไม่ต้องการคนที่ทุจริตตั้งแต่แรกเข้ามาเป็นตำรวจ ส่วนการจะยกเลิกการสอบครั้งนี้หรือไม่ นั้นต้องพิจารณาอีกครั้ง เราอาจใช้วิธีคัดแยกคนทุจริตออก โดยไม่ให้กระทบต่อคนที่สุจริต

ด้านพล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวย้ำว่า กระบวนการออกข้อสอบ และการตรวจสอบบุคคลเข้าสอบ มีขั้นตอนเข้มงวด โดยมีการจัดทำประวัติ พิมพ์ลายงานนิ้วมือผู้เข้าสอบ และตรวจสอบข้อสอบทั้งหมด ด้วยวิธีเดียวกันทั่วประเทศ เชื่อมั่นว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง และเตรียมขึ้นบัญชีดำ ผู้ที่ตั้งใจเข้ามาทุจริตในการสอบ โดยห้ามเข้าสอบตำรวจตลอดไป ย้ำว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะไม่นำบุคคลเหล่านี้ เข้ามาเป็นตำรวจที่ดูแลประชาชนเด็ดขาด ทั้งนี้การตรวจสอบพบการทุจริตครั้งนี้เป็นเพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีมาตรการตรวจสอบที่เข้มข้นไม่ปล่อยผ่านให้มีการทุจริตเท็จขาด

ทางด้าน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านทุจริตคอรัปชั่นของชาติ ได้ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดย พ.ต.ท.มงคล อุดมคำใบ รองผู้กำกับกองคดีและแพ่ง ในฐานะนายตำรวจเวร เป็นผู้รับหนังสือ โดยเนื้อหาหนังสือระบุว่า เพื่อขอให้ยกเลิกการสอบข้อเขียน (รอบแรก) เพื่อบรรจุบุคคลเข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ ประจำปี 2559 ทั้งหมด และจัดสอบใหม่โดยเปลี่ยนข้อสอบเป็นข้อเขียนแบบ อัตนัยร้อยละ70 และแบบปรนัย ร้อยละ 30 จะแก้ปัญหาได้ อีกทั้งขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการทุจริตเข้าสอบเพื่อบีีจุบุคคลเข้าเป็นนายสิบคตำรวจ ประจำปี2559 อาทิ หัวหน้าแก๊ง ผู้จัดหาลูกค้า ลูกค้า ผู้ปกครอง ผู้ให้สถานที่ในการจำลองการสอบ ผู้ประกอบการรถบัสทำหน้าที่รับ-ส่ง หอพักผู้ให้ที่พักพิง นายหน้า หัวหน้าสายนักศึกษาแพทย์-วิศวะ-ทันตแพทย์-สถาปัตย์-บัญชี-วิทญาศาสตร์

นายมงคลกิตต์ กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือ 2 ประเด็น เพื่อให้ ผบ.ตร.ที่อยู่ใกล้ชิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เร่งดำเนินการยกเลิกการสอบนักเรียนนายสิบตำรวจ ปี 2559 ทั้งหมดเลย เพราะว่ามีการทุจริตกันค่อนข้างชัดเจน อย่างที่ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุมาแล้วว่ามีการกระทำความผิดอย่างชัดเจน โดยที่มีมือปืนนักศึกษาแพทย์ศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ทันตแพทย์ศาสตร์ และอีกหลายสาขาด้วยกัน ถูกจับได้ 418 คน ความจริงจำนวนมือปืนทั้งหมดไม่ได้มีเท่านี้ มีประมาณร่วม 3,000 กว่าคน จากทุกสถาบันการศึกษา เนื่องจากว่าผู้เข้าสอบมีอายุตั้งแต่ 18-27 ปี หมายความว่านักศึกษาตั้งแต่ปี 1-4 หรือจบไปแล้วก็สามารถที่จะสอบเข้านักเรียนนายสิบได้

ทั้งนี้กระบวนการสอบทุจริตนักเรียนนายสิบตำรวจมีมาช้านาน ไม่ใช่มีแค่ปีนี้ มีมาประมาณร่วม 20 ปีด้วยกัน เพราะฉะนั้นจากการรับแค่ 5,000 คนเท่านั้น แต่คนสอบมีหลายหมื่นคน เพราะฉะนั้นบุคคลที่ต้องการเข้ามารับราชการเป็นนายสิบ ถ้าสมมุติแข่งกับบุคคลทั่วไปก็แข่งกันได้ แต่เผอิญคราวนี้ไปแข่งกับพวกนักศึกษาแพทย์ วิศวกรรมศาสตร์ ทันตแพทย์ศาสตร์ ไม่มีทางทำข้อสอบได้เลย 150 ข้อ ภายในระยะเวลาจำกัด เพราะฉะนั้นการส่งสัญญาณของพวกมือปืนพวกนี้ เป็นปัญญาชนที่เป็นหัวกระทิระดับประเทศ ซึ่งไม่สมควรทำ เนื่องจากเป็นบ่อเกิดของการทุจริตในการเข้ารับราชการ

“เมื่อต้นทุน 5-8 แสนต่อหัว เข้ารับราชการได้ นั่นหมายความว่าพอไปรับราชการก็จะต้องไปรีดนาประชาชน ซึ่งนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เองก็ต้องการป้องกันปราบปรามการทุจริต ซึ่งการสอบเป็นต้นเหตุหนึ่งของการทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่ใช่เฉพาะหน่วยงานราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเดียว ในส่วนของ ทบ.ก็มี ทร.ก็มี พยาบาลก็มี อย่างเช่นสอบครูผู้ช่วยของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานก็มี มีทุกหน่วยงานโดยเฉพาะการสอบบรรจุเข้ารับราชการสังกัดองค์กรส่วนท้องถิ่นในส่วนของข้าราชการปกติ ข้าราชการครูก็มี เพราะฉะนั้นมันอยู่ในกระบวนการเดียวกัน”

นายมงคลกิตต์ กล่าวอีกว่า ในส่วนประเด็นที่ 2 อยากให้ตร. ดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด ไม่ใช่เฉพาะมือปืนเท่านั้น คนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่หัวหน้าค่ายหรือหัวหน้าแก๊งค์ ต้องไปตรวจสอบว่ามีบุคคลมีสีอยู่หรือเปล่า ทุกสีเลย แล้วกระบวนการดังกล่าวจะมีนายหน้าผ่านไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผ่านไปยังนายกอบต. แต่ละท้องถิ่น เพื่อไปหาคนที่อยากสอบเข้านายสิบตำรวจ ก็จะได้ค่านายหน้ากัน และอยากให้ตรวจสอบว่าหัวหน้าทีมมีความสัมพันธ์กับข้าราชการระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ ที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการในการคัดเลือกว่าใครผ่านหรือไม่ผ่าน เพราะการจ่ายเงินมีการจ่าย 2 ต่อ สอบผ่านข้อเขียนกับสอบผ่านสัมภาษณ์ เพราะฉะนั้นมูลค่าก็ 5-8 แสนด้วยกัน

“เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาว่ายกเลิกแล้วสอบใหม่ แล้วยังเป็นข้อสอบแบบปรนัยเหมือนเดิม มันก็ยังทุจริตเหมือนเดิม อยากจะเสนอทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ออกข้อสอบใหม่เป็นแบบอัตนัย 70% และปรนัย 30% จะทำให้คนที่ไม่มีความรู้ความสามารถไม่กล้ามาสมัครสอบเป็นข้าราชการตำรวจเลย และคราวนี้การควบคุมจะง่ายขึ้น บางทีรับ 5,000 คน คนสมัครอาจแค่ 7,000 คนเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องยาก แต่เราได้ข้าราชการน้ำดี และก็เป็นข้าราชการที่ไม่มาทุจริตคอร์รัปชั่นและรีดนาประชาชน ไม่ใช่เฉพาะตร.เท่านั้น แต่ต้องบูรณาการทั้งประเทศในการสอบบรรจุ”