MORNING CALL ACTION NOTES (28 พ.ย.59)

ตลาดหุ้นไทยวันก่อนปรับตัวขึ้นตอบรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศช่วงปลายปี รวมถึงแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นเข้าคำนวณ MSCI รอบใหม่ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,500.40 จุด (+10.29 จุด) Vol. 3.6 หมื่นลบ.โดย Foreign Net –519 ลบ. TFEX Net +6,580 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้นตามความคาดหวังนโยบายของนายทรัมป์จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงยอดขายสินค้าออนไลน์ +13.6% YoY

+ คมนาคมกางแอคชั่นแพลน เร่งลงทุน 20 โครงการ วงเงิน 1.4 ล้านล้านบาท คาดเสนอสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูนราษฎร์บูรณะ เข้า ครม.ในเดือน ม.ค.2560 พร้อมเดินหน้ารถไฟทางคู่ รถไฟไทย-จีน และไทย-ญี่ปุ่น

+ คลังเตรียมชงช็อปช่วยชาติช่วงปลายปีเข้าครม.อีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า

+ ร.ฟ.ท. เตรียมเปิดขายเอกสารประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าทางคู่ 5 เส้นทาง วงเงินรวม 1.02 แสนล้าน ระหว่างวันที่ 13-20 ธ.ค.นี้ คาดเคาะราคา ม.ค.60

+ แรงซื้อกองทุน LTF RMF ในช่วงปลายปี

- ราคาน้ำมันปรับตัวลงจากความกังวลการประชุมโอเปกไม่สามารถบรรลุข้อตกลงลดกำลังผลิต หลังซาอุฯจะไม่เข้าร่วมประชุมกับชาติผู้ผลิตนอกโอเปกในวันจันทร์(28พ.ย.) เพื่อหารือเกี่ยวกับการตรึงกำลังผลิต

- คาด FED ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 13 – 14 ธ.ค.หลังอัตราเงินเฟ้อและการจ้างงานแข็งแกร่ง

- Foreign เป็น Net Sell เดือนพ.ย. 3.2 หมื่นลบ. และตั้งแต่เดือนต.ค. เป็น Net Sell ราว 5 หมื่นลบ.

แม้ว่าราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงรวมถึง Fund Flow ต่างชาติเป็น Net Sell ต่อเนื่องจะเป็นแรงกดต่อภาวะตลาด อย่างไรก็ตามแรงกระตุ้นจากมาตรการภาครัฐ รวมถึงเม็ดเงิน LTF RMF ช่วงปลายปีจะเป็นตัวหนุนตลาด ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,490 – 1,510 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยบวก

- PDI UV ราคาสังกะสีขึ้นทำ High ในรอบ 6 ปี ล่าสุด 2,705 US/Tons

- STA TRUBB ราคายางพาราทำ High ในรอบ 1 ปีล่าสุด 227 Yen/Kg

- BANPU ราคาถ่านหินดีดตัวขึ้นล่าสุด 92.5 US/Tons

- กลุ่มส่งออก (อาหาร อิเล็กทรอนิคส์) อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า

- หุ้นเข้า MSCI รอบใหม่ซึ่งมีผล 30 พ.ย. ได้แก่ MSCI Thailand เพิ่ม BJC, KCE / MSCI Global Small Cap เพิ่ม COM7, MALEE, TKN, TFG

หุ้นแนะนำ

BANPU   ราคาปิด 19.20 บาท    ราคาเหมาะสม 21.75 บาท

- มุมมองบวกต่อผลประกอบการใน Q4/59 ต่อเนื่องถึงปี 60 เนื่องจากบริษัทกำลังจะตกลงราคาขายถ่านหินในปีหน้าซึ่งราคาปรับตัวขึ้น 40-50% จากปี 59 ขณะที่คาดว่าต้นทุนการผลิตจะปรับตัวขึ้นเพียง 15-20% จากการขุดถ่านหินในพื้นที่ลึกขึ้นทำให้อัตราส่วนดินต่อแร่

- คาดปี 2016 พลิกเป็นกำไรที่ 1,510 ลบ. (+198% YoY) จากโรงไฟฟ้า BLCP และโรงไฟฟ้าหงสาจะทำการผลิตไฟฟ้าครบทั้ง 3 หน่วย และคาดกำไรปี 2017 อยู่ที่ 9 พันล้านบาทเติบโต 690%YoY จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้น

- ลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าผ่าน BPP (คิดเป็นมูลค่า 12.3 บาทต่อหุ้น) โดยดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้ากำลังการผลิต 1.9 GW และกำลังก่อสร้างอีก 550 MW รวม 2.45 GW

หุ้นมีข่าว

- ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา - “ร.ฟ.ท.” เตรียมเปิดขายเอกสารประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าทางคู่ 5 เส้นทาง วงเงินรวม 1.02 แสนล้าน ระหว่างวันที่ 13-20 ธ.ค.นี้ คาดเคาะราคา ม.ค.60 และเซ็นสัญญาพร้อมกันวันที่ 21 มี.ค.60 (ที่มาข่าวหุ้น)

- ประเด็นบวก CKP ไฟเขียว ไฟฟ้าน้ำงึม 2 ทำสัญญาจ้าง กับ ช.การช่าง (ลาว) หรือ CHK เพื่อยกระดับพื้นที่และงานแก้ไขโครงสร้างฐานรากเดิมในส่วนพื้นที่ก่อสร้าง 500 กิโลโวลต์ และงานแก้ไขโครงสร้างฐานรากเดิม สถานีไฟฟ้าย่อยนาบง มูลค่ากว่า 302.92 ล้านบาท (ที่มาทันหุ้น)

- HREIT (ราคา IPO 10 บาท) ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราชจะเริ่มซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก (28 พ.ย.) มูลค่า 5,693.60 ล้านบาท ราคาหน่วยละ 10 บาท โดยเป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ที่ลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดิน อาคารโรงงานและคลังสินค้าของกลุ่มบริษัทเหมราชที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช และเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง รวม 6 แห่ง รวมอาคารโรงงานและคลังสินค้าจำนวน 101 ยูนิต พื้นที่ให้เช่ารวม 261,314 ตารางเมตร เป็นระยะเวลา 30 ปี และมีสิทธิในการต่ออายุสัญญาเช่าอีก 30 ปี ปัจจุบันมีอัตราการเช่าประมาณ 85%

- EIC วางมัดจำ 20 ลบ.เข้าซื้อหุ้น 51% ใน"ส.ธนา มีเดีย"จากมูลค่าทั้งหมด 200 ลบ.

- AMARIN เพิ่มทุน 200 ล้านหุ้นขายกลุ่ม"เสี่ยเจริญ"ถือ 47.62% รวมมูลค่า 850 ลบ.ขอเว้นทำเทนเดอร์ฯ

- JSP ร่วมทุน"จงเทียน คอนสตรัคชั่น"ยักษ์ใหญ่จีนผุดเมกะโปรเจ็คต์กว่า 1 หมื่นลบ.ในชลบุรี

- PTG ร่วมทุน"เอี่ยมบูรพา"ตั้งบริษัทผลิตเอทานอล-โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน

- SOLAR ตั้งเป้ารายได้ปี 60 สูงกว่าราว 1.5 พันลบ.ในปีนี้ หวังงานภาครัฐ-โซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ฯหนุน

- เปิดโผ 10 อันดับหุ้นถูกชอร์ตเซลหนักสุด นับตั้งแต่วันที่ 1-22 พ.ย.59 AOT, KBANK, BANPU, PTT, TRUE, IVL, ADVANC, SCC, DTAC, SCB ล่าสุดเริ่มมีสัญญาณซื้อคืน (ที่มาข่าวหุ้น)

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +68.96 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 68.96 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 19,152.14 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่ม 8.63 จุด หรือ 0.39% ปิดที่ 2,213.35 จุด ดัชนี NASDAQ บวก 18.24 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 5,398.92 จุด โดยทั้ง 3 ดัชนีต่างทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนจับตาหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่จะได้รับอานิสงส์จากยอดขายที่พุ่งขึ้นในวันแบล็กฟรายเดย์ ซึ่งเป็นวันหนึ่งที่ลูกค้าจะเข้าซื้อสินค้าอย่างคึกคักที่สุดในรอบปี นอกเหนือจากเทศกาลคริสต์มาส

ตลาดน้ำมัน NYMEX -1.90 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.10 ดอลลาร์ กังวลที่ประชุมโอเปกสัปดาห์หน้าล้มเหลวบรรลุในรายละเอียดของข้อตกลงลดกำลังผลิต