MORNING CALL ACTION NOTES (16 พ.ย.59)

MORNING CALL ACTION NOTES (16 พ.ย.59)

เด้งบ้างไรบ้าง

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ดีดตัวขึ้นจากแรงซือกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น รวมถึงสัญญาณรีบาวด์ทางเทคนิคหลังดัชนีไม่หลุด 1,460 จุด ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,476.46 จุด (+7.23 จุด) Vol. 6.4 หมื่นลบ.โดย Foreign Net –2,660 ลบ. TFEX Net +2,651 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้นจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งโดยยอดค้าปลีกเดือนต.ค. +0.8% MoM ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นสู่ 1.5 จากระดับ -6.8 ในเดือนต.ค.

+ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นล่าสุด 45.8 US/Barrel จากคาดการณ์กลุ่มโอเปก จะลดกำลังการผลิตในการประชุม 30 พ.ย. รวมถึงรายงานที่ระบุว่าอิรัก และอิหร่านกำลังพิจารณาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน

+/- รัฐบาลกรีซเปิดการเจรจารอบใหม่กับ EU และ IMF โดยคาดว่า EU จะสนับสนุนการผ่อนปรนหนี้ระยะสั้นให้กรีซ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือในระยะกลาง และระยะยาวต่อไป

+/- MSCI ประกาศรายชื่อหุ้นเข้า-ออกมีผลบังคับใช้ 30 พ.ย. ได้แก่ MSCI Thailand เพิ่ม BJC, KCE ออก ไม่มี / MSCI Global Small Cap เพิ่ม COM7, MALEE, TKN, TFG ออก ASP, BJCHI, CBG, COL, CGD, DNA, KCE, ROJNA

- Foreign เป็น Net Sell เดือนพ.ย. 2 หมื่นลบ. และตั้งแต่เดือนต.ค. เป็น Net Sell 3.8 หมื่นลบ.

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น , แรงซื้อเก็งกำไรหุ้นที่ได้เข้าคำนวณ MSCI รอบใหม่ รวมถึงสัญญาณการรีบาวด์ทางเทคนิค อย่างไรก็ตาม Fund Flow ที่ยังคงไหลออกต่อเนื่องยังเป็นแรงกดดันดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัว 1,470 – 1,485 จุด

กลยุทธ์การลงทุน ซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy

- กลุ่มพลังงาน อานิสงส์ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นแรง

- กลุ่มวางระบบ ICT (INET SAMTEL AIT) ลุ้นมติ ครม.สัปดาห์หน้า เห็นชอบเดินหน้าโครงการเน็ตหมู่บ้าน 24,700 หมู่บ้าน วงเงิน 1.5 หมื่นล้าน (มติชน)

- กลุ่มส่งออก ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าล่าสุด 35.4 Bath/USD.

- TTA PSL ค่าระวางเรือทำ High ในรอบ 1 ปีล่าสุด 1,084 จุด

- STA TRUBB ราคายางพาราขึ้นทำ High ในรอบ 1 ปีล่าสุด 203 Yen/Kg

Analyst Meeting

PTTGC   ราคาปิด 59.50 บาท   แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 71 บาท

- บริษัทเปิดตัวโครงการ Better to the MAX ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง PTTGC และ McKinsey ในการพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงานทั้งด้านการผลิต การจัดหาวัตถุดิบ และพัฒนาระบบการทำงานของบริษัทให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มรายได้ โดยโครงการดังกล่าวเริ่มดำเนินงานตั้งแต่กลางปี 2016 จนถึงปี 2019 บริษัทคาดหวังว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่ม EBIT ได้ปีละ 200-300 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2019

- ความคืบหน้าโครงการลงทุน 1)มาบตาพุดรีโทรฟิต (MTP retrofit) อยู่ระหว่างจัดหาผู้รับเหมา คาดว่าดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2020 2) โครงการ พีโอ โพรีอัล (PO Polyols) อยู่ระหว่างจัดหาเงินทุนและจัดหาผู้รับเหมา โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในปี 2020 3) โครงการปิโตรเคมีคัลคอมเพล็กในสหรัฐ (Petrochemical complex) มีโอกาสเลื่อนการลงทุนออกไป โดยในปัจจุบันกำลังศึกษาความเป็นไปได้เพิ่มเติมหลังนายโดนัล ทรัมป์ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่

- ปี 2017 บริษัทคาดว่า 1) ธุรกิจโรงกลั่นจะทรงตัวตามค่าการกลั่นที่ทรงตัวในกรอบ 5-5.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากแรงหนุนของส่วนต่างน้ำมันเบนซิน 2) ธุรกิจอะโรเมติกส์มีแนวโน้มอ่อนตัวลงตามส่วนต่างผลิตภัณฑ์พาราไซลีนที่จะมีอุปทานเพิ่มจากโรงงาน Reliance ของอินเดียเข้ามากดดัน และ 3) ธุรกิจโอเลฟินส์จะทรงตัวเนื่องจากคาดว่าราคาของผลิตภัณฑ์โพรีเอทิลีนจะทรงตัวใกล้เคียงกับปี 16 เนื่องจากอุปสงค์และอุปทานยังคงเติบโตตามกัน

หุ้นมีข่าว

- SIRI (ราคาปิด 1.67 ซื้อ ราคาเหมาะสม 1.98 บาท) 3Q59 มีกำไรสุทธิ 603ลบ. -3%qoq -47%yoy ต่ำสุดรายไตรมาส 9M59 มีกำไรสุทธิ 1,782 ลบ. -29%yoy 9M59 มีกำไรสุทธิ 556 ลบ. +26%yoy แนวโน้มกำไร Q4 จะพลิกฟื้นและสูงสุดรายไตรมาสโดยมี backlog แล้ว 6,786 ลบ.สำหรับยอดขาย presale ปีนี้ได้รับผลกระทบจากการเลื่อนจัดงานเปิดขายโครงการใหม่ 3 โครงการมูลค่ารวม 1.75 หมื่นลบ.ไปเป็นช่วง 1H59ได้แก่ โครงการ 98 ที่ถ.วิทยุมูลค่า 8,250 ลบ. และโครงการร่วมทุน 2 โครงการ ผู้บริหารปรับลดเป้าหมายยอดขาย presale เหลือ 3.3 หมื่นลบ. ทำได้แล้ว 23,881 ลบ.

   ความเห็น : กำไร 9M59 คิดเป็น 59% ของประมาณการกำไรทั้งปี 59 ที่ 3,033 ล้านบาทที่ยังคงประมาณการตามเดิม ทำให้คาดการณ์กำไร 4Q59 อยู่ที่ราว 1,251 ล้านบาท

- CKP (ราคาปิด 3.46 ราคาเหมาะสม consensus สูงสุด 3.60 บาท) ในช่วง 3Q59 มีรายได้ เพิ่มขึ้นจากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 21%yoy ปริมาณขายเพิ่มขึ้น 38%yoy ขณะที่ต้นทุนการดำเนินงานลดลง อัตรากำไรขั้นต้นปรับดีขึ้นเป็น 50.5% จาก 35% ใน 3Q58 อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสู่ 19% จาก 3% ใน 3Q58 ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 337 ลบ. +561%yoy ปลายก.ย.59 การก่อสร้างเป็นไปตามแผน โครงการบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น 2 ในไทย (BIC 2) มีความคืบหน้า 78% สูงขึ้นมากจากไตรมาสที่แล้วหลังเริ่มติดตั้งอุปกรณ์ จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์มิ.ย.60 โครงการเขื่อนไซยะบุรีในลาวมีความคืบหน้า 70% และเป็นไปตามแผนจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ ต.ค. 62

- INTUCH (ราคาปิด 51.25 บาท ราคาเหมาะสม consensus เฉลี่ย 63.30 บาท) เตรียมทบทวนนโยบายการจ่ายปันผลจากปัจจุบันที่จ่ายปันผล 100% ของกำไรสุทธิเพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ โดยจะนำเสนอต่อบอร์ดราวกลางเดือน ก.พ.60 ทั้งนี้แนวโน้มผลประกอบการในปี 60 คาดว่าจะทำได้สูงกว่าปี 59 เชื่อว่า ADVANC จะฟื้นตัวหลังจากได้รับใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHz ทำให้มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นและมีคลื่นรองรับและครอบคลุมการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งกลุ่มลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ ขณะที่ THCOM มีโอกาสได้ลูกค้าใหม่มาชดเชยรายได้ที่หายไปจากลูกค้า 1 รายที่ยกเลิก ส่วน CSL ผลการดำเนินงานยังเติบโต หลังมีลูกค้าใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้น

- ประเด็นบวก CWT จะเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลในจ.สระแก้ว มูลค่า 959 ลบ. คาด COD 16 ต.ค.60

- VGI จะซื้อหุ้น 40% ใน"เดโม เพาว์เวอร์ฯ"ผู้ให้บริการจัดกิจกรรมทางการตลาด มูลค่าไม่เกิน 412.5 ลบ.

- BEAUTY "สุวิน-ธัญญาภรณ์ ไกรภูเบศ"ขายหุ้น BEAUTY รวม 10% ให้ผู้ลงทุนในวงจำกัดหุ้นละ 11 บาท เพื่อขยายฐานผถห.

- DNA ขยายเวลาขายกิจการ"มิสเตอร์บัน"คาดแล้วเสร็จภายใน ธ.ค.จากเดิม ต.ค.59

- CEN ออกวอแรนต์แจก ผถห.เดิม 2:1 ราคาใช้สิทธิ 2 บาท/หุ้น พร้อมเพิ่มทุนรองรับ

- CGH ลุยซื้อโรงแรมอังกฤษ-ไทย พร้อมรุกพลังงานทดแทน ชู PDI อนาคตสดใส ปรับโครงสร้างรายได้เห็นผลปี 60

- CHUO จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนขาย RO จำนวน 19.74 ล้านหุ้น สัดส่วน 1:0.413341 หุ้นละ 0.60 บ. ขายหุ้น 6 บริษัท

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +54.37 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,923.06 จุด เพิ่มขึ้น 54.37 จุด หรือ +0.29% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,275.62 จุด เพิ่มขึ้น 57.22 จุด หรือ +1.10% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,180.39 จุด เพิ่มขึ้น 16.19 จุด หรือ +0.75% โดยดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 7 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นเกือบ 6% รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ตลาดน้ำมัน NYMEX +2.49 ดอลลาร์/บาร์เรล

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 2.49 ดอลลาร์ หรือ 5.8% ปิดที่ 45.81 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะสามารถบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตในการประชุมปลายเดือนนี้