รฟท.เตรียมขนที่ดิน3หมื่นไร่ เปิดให้เอกชนเช่า

รฟท.เตรียมขนที่ดิน3หมื่นไร่ เปิดให้เอกชนเช่า

รฟท.เตรียมขนที่ดิน 3 หมื่นไร่ มูลค่า 3 แสนลบ. เปิดให้เอกชนพัฒนาเชิงพาณิชย์ หวังสร้างรายได้โต 100% พร้อมปรับแบบรถไฟฟ้าชายเมืองสีแดงอ่อน

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันรฟท. มีที่ดิน 3 หมื่นไร่ มูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาทที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการเดินรถ ซึ่ง รฟท.เตรียมที่จะเปิดให้เอกชนเข้ามาเช่าพื้นที่พัฒนาต่อยอดชิงพาณิชย์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดประเภทและลำดับความสำคัญ โดยจะเริ่มจากที่ดินแปลงใหญ่ก่อนคาดว่าระยะแรกจะทำให้รายได้ของ รฟท. เพิ่มขึ้น 50% และในระยะยาวเพิ่มขึ้นถึง 100%

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานขอให้รฟท. ไปศึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการได้มาซึ่งที่ดิน ว่าสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้หรือไม่คาดว่าจะสรุปผลได้เดือน ธ.ค. นี้ ส่วนที่ดินที่ไม่ได้เอาไปใช้เรื่องการเดินรถและนำไปที่ว่างเปล่าสามารถนำออกไปพัฒนาเพื่อให้เอกชนเข้ามาร่วมทุนได้แน่นอน

อย่างไรก็ตาม รฟท. อยู่ระหว่างปรับแบบโครงการรถไฟฟ้าชายเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสายสีแดงเข้ม บางซื่อ-หัวลำโพง (Missing Link) ระยะทาง 25.9 กิโลเมตร วงเงิน 4.4 หมื่นล้านบาท เพื่อเร่งผลักดันโครงการ เนื่องจากปัจจุบันล่าช้าในขั้นตอนประกวดราคาเป็นเวลาประมาณ 9 เดือนแล้ว เนื่องจากรถไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีปลายทางที่สถานีกลางบางซื่อ การก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อล่าช้าออกไปถึง 2562-2563

"ขณะนี้กำลังปรับแบบรถไฟฟ้าสายสีแดง Missing Link ว่าจะก่อสร้างได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเดินรถ เร็วๆ นี้จะลงพื้นที่สถานีกลางบางซื่อเพื่อดูปัญหาการเจรจาส่งมอบพื้นที่ในสัญญาที่ 1-2 และจะปรับแบบสัญญาที่ 1-3 ให้การทำงานสอดรับกัน" นายวุฒิชาติกล่าว

สำหรับการศึกษาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ช่วงสนามบินดอนเมือง-สนามบินอู่ตะเภาใกล้แล้วเสร็จแต่ยังติดปัญหาเส้นทางซ้อนทับกับโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง ระยะทาง 193.5 กิโลเมตรวงเงิน 1.5 แสนล้านบาท รฟท. จึงต้องปรับแบบแนวเส้นทางให้ชัดเจนก่อนว่าใครจะใช้เส้นทางไหน เพื่อไม่ให้เส้นทางทับซ้อนกัน เนื่องจาก โครงการรถไฟไฮสปีดเทรน กทม ระยอง ต้องใช้มูลค่าเงินลงทุนสูง หากจะดึงดูดให้เอกชนเข่าร่วมลงทุน จะต้องทำให้เอกชนมั่นใจว่ารถไฟฟ้า 2 เส้นทางจะไม่มีการแย่งลูกค้ากันเอง เพราะหากเอกชนมั่นใจเรื่องรายได้ ก็อาจจะไม่สนใจร่วมลงทุน