‘บ้านไทยโฮม’ชูนวัตกรรม-ราคา สู้ศึกรับสร้างบ้าน

‘บ้านไทยโฮม’ชูนวัตกรรม-ราคา  สู้ศึกรับสร้างบ้าน

ต้นทุนวัสดุก่อสร้างและแรงงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ผนวกกับความผันผวนของเศรษฐกิจไทยและทั่วโลกกระทบความเชื่อมั่นและการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค

ต้นทุนวัสดุก่อสร้างและแรงงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ผนวกกับความผันผวนของเศรษฐกิจไทยและทั่วโลกกระทบความเชื่อมั่นและการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคทั้งกลุ่มที่ต้องการซื้อและสร้างบ้านเอง ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านต้องปรับตัว หนึ่งในแนวทางสำคัญ คือ การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีก่อสร้าง
โอฬาร ตั้งวงศ์กิจ ประธานกรรมการ บริษัท บ้านไทยโฮม จำกัด กล่าวว่า กระแสความนิยมของผู้บริโภคที่สนใจสร้างบ้านด้วยระบบบ้านโครงสร้างเหล็กเพิ่มขึ้น เพราะก่อสร้างได้รวดเร็วใช้เวลาเพียง 1 เดือน ทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ งบประมาณไม่บานปลาย และมีความแข็งแรงไม่ต่างจากบ้านปูน ซึ่งต้องใช้เวลาก่อสร้างนาน 4-5 เดือน ระบบบ้านโครงสร้างเหล็กจึงตอบรับความต้องการของผู้ต้องการจะมีบ้านในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้เป็นอย่างดี
จากโอกาสทางการตลาดนี้ บริษัทจึงได้พัฒนาการสร้างบ้านด้วยระบบโครงสร้างเหล็กถือเป็นรายแรกในประเทศไทย สร้างบ้านมาแล้วกว่า 1,000 หลัง
การตอบรับของตลาดทำให้เพิ่มจำนวนคู่แข่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทวางกลยุทธ์ธุรกิจมุ่งสร้าง “นวัตกรรม” แตกต่างจากคู่แข่ง
“จุดแข็งของบ้านไทยโฮม คือ การนำนวัตกรรมใหม่มาใช้ในการสร้างบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านหายใจสะอาด เป็นนาโนเทคโนโลยีที่ฆ่าเชื้อโรคได้ เมื่อได้รับแสงฟลูออเรสเซนต์จากการเปิดหลอดไฟในอาคาร นวัตกรรมบ้านเพื่อผู้สูงอายุและเด็ก ออกแบบให้เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุและเด็กแรกเกิด โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ เช่น ผนังปลอดเชื้อแบคทีเรีย ผนังฟอกอากาศ ระบบพื้นปลอดภัยเมื่อล้มก็ไม่เป็นอันตราย ปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน ระบบพื้นบ้านระดับเดียวกันทั้งหลัง"
ที่ผ่านมาบริษัทได้ลงนามความร่วมมือกับ 3 บริษัทวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ บริษัท อาควาไลน์ โปรทาร์เก็ต จำกัด บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ดึงนวัตกรรมวัสดุและเทคโนโลยีของแต่ละผู้ประกอบการมาใช้ในการสร้างบ้านด้วย ระบบแห้ง (Dry Work) ที่ปราศจากการก่ออิฐ ฉาบปูน ลดการใช้พลังงาน ลดปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงาน และย่นระยะเวลาการผลิตลง 3 เท่า
การมีพันธมิตรแข็งแกร่งหลากหลายธุรกิจเป็นจุดขายสำคัญในเรื่องของ “ราคา” โดยระบบแห้ง ถือว่ามีราคาต่ำที่สุดในตลาดการสร้างบ้าน ด้วยงบประมาณเริ่มต้น ตร.ม.ละ 9,000 บาท ดึงดูดลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการคุณภาพที่มาพร้อมความคุ้มค่าคุ้มราคา
“การเป็นผู้ประกอบรายเล็กย่อมเสียเปรียบรายใหญ่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทุน ต้นทุนการผลิต แต่รายเล็กมีข้อได้เปรียบที่สามารถปรับแผนการพัฒนาได้รวดเร็ว มีความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน บริการลูกค้าได้ใกล้ชิด ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เร็วกว่าและตรงจุดกว่า”
บ้านไทยโฮม มีสินค้าและการบริการครอบคลุม 5 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มลูกค้าบ้าน กลุ่มผู้ประกอบการโรงงาน โกดัง กลุ่มปรับปรุงต่อเติมบ้าน กลุ่มผู้ส่งออก และตลาดธุรกิจ (B2B)
ปีนี้บริษัทมุ่งขยายตลาดนำระบบโครงสร้างเหล็กเจาะลูกค้าโครงการ ทั้งบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ โฮมออฟฟิศ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ พร้อมจัดสรรงบกว่า 50 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรใหม่ เพื่อขยายกำลังการผลิตจาก 1,000 ตร.ม.ต่อวัน
นอกจากนี้ ยังขยายตลาดผ่านระบบแฟรนไชส์เริ่ม 10 จังหวัดเป้าหมาย อาทิ เชียงใหม่, อ.แม่สอด จ.ตาก, ขอนแก่น, อุดรธานี,สุราษฎร์ธานี, อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คาดเพิ่มเป็น 25 แห่ง ภายใน 3 ปี
ปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้รวม 1,000 ล้านบาท เติบโต 4 เท่าตัว จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 200 ล้านบาท