ไอดีซีชี้ลูกค้า ‘โน้ต7’ 50%เปลี่ยนใจซบไอโฟน

ไอดีซีชี้ลูกค้า ‘โน้ต7’ 50%เปลี่ยนใจซบไอโฟน

ไอดีซีชี้ลูกค้า‘โน้ต7’50%เปลี่ยนใจซบไอโฟน นักวิเคราะห์ประเมินสมาร์ทโฟนไทยซึมยาว-เตรียมรื้อคาดการณ์สภาพตลาดไอทีใหม่

ไอดีซีเผยผลสำรวจลูกค้าโน้ต 7 ครึ่งหนึ่งเปลี่ยนใจเลือกไอโฟน นักวิเคราะห์ประเมินส้มหล่นใส่แอ๊ปเปิ้ล 5-7 ล้านราย แต่ยอดขายไอโฟนร่วงไตรมาสล่าสุดยังไม่มีผล ฟากไอดีซีไทย เผยสภาพตลาดหลุดคาด เตรียมปรับตัวเลขใหม่ปลายปี

ผลสำรวจล่าสุดจากบริษัทวิจัยไอดีซี เผยผลกระทบอภิมหาการเรียกคืนสมาร์ทโฟนของยักษ์ซัมซุงพบลูกค้า 50% มีแนวโน้มเปลี่ยนใจไปซื้อไอโฟนแทน และจนถึงปัจจุบันยังไม่สามารถสรุปสาเหตุปัญหาของแบตเตอรี่ที่ทำให้เครื่องร้อนเกินพิกัดได้แน่ชัด

ไอดีซีสำรวจผู้บริโภคในสหรัฐ 1,082 คนผ่านช่องทางออนไลน์ช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 17 -18 ต.ค. หรือ 4 วันหลังจากซัมซุงตัดสินใจยุติการผลิต “กาแล็กซี่ โน้ต7” อย่างเป็นทางการ โดยการสำรวจดังกล่าวเน้นลูกค้า 3 กลุ่มหลัก คือ ผู้ใช้เครื่องซัมซุงอยู่แล้ว 507 คน, อดีตลูกค้าซัมซุงหรือเคยใช้มือถือซัมซุงมาก่อนแล้วเปลี่ยนไปใช้แบรนด์อื่น 347 คน และเจ้าของสมาร์ทโฟนที่ไม่เคยลองใช้ซัมซุงมาก่อนเลย 228 คน และเนื่องจากข้อจำกัดสินค้าทำให้มีผู้ถูกสำรวจที่เป็นเจ้าของโน้ต 7 เพียง 24 คน

โดยไอดีซีสำรวจความเห็นเจ้าของหรือผู้จองโน้ต 7 พบว่า ครึ่งหนึ่งของผู้ถูกสำรวจเปลี่ยนใจไปซื้อไอโฟนแล้ว หรือมีแผนซื้อไอโฟนแทนที่จะรอรุ่นใหม่หรือเลือกรุ่นอื่นๆ ของซัมซุงแทน ขณะที่ 17% ระบุว่า หันไปเลือกรุ่นอื่นของซัมซุง

แต่เสียงส่วนใหญ่ยอมรับว่า จะนำเครื่องที่ได้มาไปคืนร้านค้าตัวแทนของซัมซุง

รายงานจากไอดีซียังสรุปด้วยว่า แอ๊ปเปิ้ลเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่่ได้รับอานิสงส์จากการเรียกคืนสมาร์ทโฟนของซัมซุงครั้งนี้ แต่แอ๊ปเปิ้ลเผยช่วง

รายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า สถานการณ์ปัจจุบันไม่มีผลกับยอดขายในช่วงเวลาดังกล่าว

อย่างไรก็ตามแนวโน้มผู้ใช้แอนดรอยด์เปลี่ยนใจไปแพลตฟอร์มไอโอเอสของแอ๊ปเปิ้ลช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เริ่มส่งสัญญาณว่ามีความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นผลดีระยะยาวกับแบรนด์อื่นๆ จากการเรียกคืนโน้ต 7 ครั้งนี้

สำหรับผลประกอบการแอ๊ปเปิ้ลไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 45.5 ล้านเครื่อง ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าหรือเดิม 48 ล้านเครื่อง

ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัทเคจีไอ เผยคาดการณ์ผลกระทบก่อนหน้านี้ว่า แอ๊ปเปิ้ลอาจได้ลูกค้าใหม่จากกลุ่มที่เปลี่ยนใจหลังการเรียกคืนโน้ต 7 มาเป็นลูกค้าไอโฟน 7 ราว 5-7 ล้านคน เป็นตัวเลขที่สอดคล้องผลสำรวจฉบับล่าสุดของไอดีซีที่คาดว่า จะมีลูกค้าซัมซุงเปลี่ยนใจมาหาไอโฟนราว 5-7 ล้านราย หรือราวครึ่งหนึ่งของยอดสั่งซื้อโน้ต 7 ราว 12 ล้านราย

ตระกูล 'โน้ต' เหนื่อยแน่ปีหน้า
สำหรับสภาพตลาด “โน้ต 7” ในไทยปัจจุบันยังถือว่ากระทบน้อย เพราะตัวแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับใช้งานแพร่หลาย และเป็นแบรนด์ที่ยังแข็งแกร่งในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบกับช่วงที่เกิดปัญหา สินค้ายังไม่มีวางจำหน่ายในไทย

นายจาริตร์ สิทธุ ผู้จัดการฝ่ายงานวิจัย สายงานศึกษาตลาดไคลเอนต์ ดีไวซ์ ประจำไอดีซี ประเทศไทย บอกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับสมาร์ทโฟนรุ่นไฮไลต์ของซัมซุงสำหรับตลาดไทยถือว่าอาจได้รับผลกระทบไม่มาก ซึ่งอาจเป็นความโชคดีที่โน้ต 7 ยังไม่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แค่เป็นการเปิดตัว และสามารถระงับการส่งสินค้าได้ทัน

นอกจากนี้ ยังต้องยอมรับว่า ซัมซุงในไทยค่อนข้างรับผิดชอบกับกรณีที่เกิดขึ้นได้ดีี ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกให้ลูกค้าสามารถเลือกที่จะขอคืนเงิน หรือเพิ่มของแถม และส่วนลดสำหรับซื้อรุ่นอื่นแทน

“ไอดีซีในไทยไม่สามารถเก็บข้อมูลผลกระทบของโน้ต 7 เหมือนกับตลาดใหญ่ๆ เช่น สหรัฐได้ เพราะสินค้ายังไม่ได้ส่งถึงผู้ใช้ และมีกลุ่มคนที่ได้สัมผัส หรือได้ลองใช้สินค้าไม่มาก ซึ่งก็ประเมินได้แค่ว่าผลกระทบของโน้ต 7 มีไม่มาก แต่ก็ถือว่าเป็นงานหนักสำหรับซัมซุงในปีหน้าถ้าคิดจะทำแบรนด์โน้ตต่อ ซึ่งก็อาจจะเป็นไปได้ที่มีกระแสข่าวว่าซัมซุงจะทิ้งแบรนด์โน้ต เพราะภาพลักษณ์โดยรวมมันเสียหายมาก ”

แต่อย่างไรก็ตาม การซื้อขายสินค้าเกือบทุกอย่างในตลาดไอที โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนในช่วงปลายปีนี้ยังอยู่ระหว่างการปรับคาดการณ์ใหม่ทั้งหมด เพราะจนถึงตอนนี้แน่นอนแล้วว่ายอดขายสินค้าไอทีทั้งพีซี และสมาร์ทโฟนหลุดกรอบจากที่เคยคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปี เพราะนอกจากกรณีของซัมซุงแล้ว บรรยากาศในช่วงนี้ไม่คึกคักเหมือนทุกๆปลายปี ที่โดยปกติแล้วจะเป็นช่วงที่มีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆเข้ามาเปิดตัว รวมถึงไอโฟนแต่ก็พบว่า การซื้อขายยังไม่คึกคักเท่าที่ควร ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวสินค้าเองด้วยที่ไม่หวือหวาทำให้ผู้ซื้อส่วนหนึ่งเลือกที่จะข้ามไอโฟนรุ่นนี้ไปก่อน