'หุ้นซีพีออลล์' ดิ่ง หยุดเติมเงินฉุดกำไร3%

จากกรณีที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ของ ซีพี ออลล์ (CPALL) ยุติการให้บริการเติมเงินวันทูคอลของค่ายแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือAIS เนื่องจากไม่สามารถตกลงเรื่องค่าผลตอบแทนในการขายกันได้ โดยทางซีพี ออลล์จะขอขึ้นมาร์จิ้นจาก 5% เป็น 7% แต่ทางแอดวานซ์ไม่ตกลง โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจา และคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่า มาร์จิ้นที่ซีพี ออลล์เรียกเก็บจากแอดวานซ์ ถือว่าสูงที่สุดช่องทางหนึ่ง เมื่อเทียบกับช่องทางอื่นๆ แต่ต่ำกว่ามาร์จินที่เรียกเก็บจากดีแทค (DTAC) ที่ 6+1% และจากทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ที่ 7%

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส มองว่า หากซีพี ออลล์ยุติการให้บริการวันทูคอลจริง ผลกระทบต่อรายได้ไม่มากนัก เพราะรายได้จากบริการเติมเงินวันทูคอลอยู่ที่ 1-1.2 พันล้านบาทต่อปี คิดเป็นประมาณ 0.3% ของรายได้ในปี 2558 ซึ่งอยู่ที่ 4.05 แสนล้านบาท แต่ผลกระทบต่อกำไรสุทธิจะอยู่ที่ราว 3% ถ้าให้สมมติฐานอัตรากำไรสุทธิจากธุรกิจนี้ 40%

ในเชิงกลยุทธ์แนะนำซื้อหุ้นซีพี ออลล์เมื่ออ่อนตัว โดยเรายังคงประเมินว่าการขยายสาขาเพิ่มปีละ 700 แห่ง และการเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีมาร์จินสูงจะทำให้กำไรสุทธิบริษัทขยายตัวได้ดีต่อเนื่องเป็นเลขสองหลักในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า ทางฝ่ายวิจัยประเมินราคาพื้นฐานไว้ที่ 75 บาท
ในมุมกลับกัน ความไม่ลงตัวที่เกิดขึ้นกลับส่งผลบวกต่อผู้ให้บริการเติมเงินรายอื่นอย่าง ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART)

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่าหลังจากที่เซเว่น อีเลฟเว่น หยุดจำหน่ายซิมและสลิปเติมเงินวันทูคอลมาเกือบ1เดือน และยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะกลับมาจำหน่ายได้อีกเมื่อไหร่ ทำให้เรามองประเด็นนี้สร้างปัจจัยบวกระยะสั้นต่อฟอร์ท สมาร์ท

โดยเราคาดว่าลูกค้าระบบเติมเงินของแอดวานซ์ จำนวนหนึ่งจากจำนวนรวม33.5ล้านเลขหมาย ที่เคยใช้บริการเติมเงินในเซเว่น อีเลฟเว่นจะหันมาเติมเงินมือถือที่ “ตู้บุญเติม” ของฟอร์ท สมาร์ท หน้าร้านเซเว่น อีเลฟเว่นแทน โดยปัจจุบันตู้บุญเติมที่ตั้งอยู่หน้าร้านมีทั้งหมด 7,000 ตู้ และสาขาเซเว่น อีเลฟเว่น ณ ไตรมาส 2 มีทั้งหมดที่ 9,200 สาขา

ด้วยปัจจัยบวกระยะสั้นที่กล่าวมานี้ จึงมองผลประกอบการช่วงไตรมาส 4 จะเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้ามากกว่าค่าเฉลี่ยมาอยู่ที่ประมาณ11.5 - 12%โดยเราคาดการณ์ผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 3 ไว้ที่ 102 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีขึ้น เพื่อสะท้อนประเด็นบวกใหม่มาอยู่ที่ประมาณ 408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น12ล้านบาทจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นซีพี ออลล์ ช่วง 2 วันที่ผ่านมา อ่อนตัวลงเล็กน้อยจาก 62.75 บาท ไปทำจุดต่ำสุดที่ 60.75 บาท หรือลดลง 2.7%