'เอสเอ็มอีแบงก์' ยันเปลี่ยนประธานบอร์ดไม่กระทบ

'เอสเอ็มอีแบงก์' ยันเปลี่ยนประธานบอร์ดไม่กระทบ

เอสเอ็มอีแบงก์แจง“สาลินี”ลาออกไม่กระทบแผนฟื้นฟูกิจการ คาดเดินหน้าได้ตามปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้า3.5หมื่นล้านบาท

นางพรรณขนิตตา บุญครอง ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า มั่นใจว่าธนาคารสามารถเดินหน้าตามแผนฟื้นฟูกิจการได้โดยไม่สะดุด แม้ว่านางสาลินี วังตาล ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด)จะลาออก เนื่องจากต้องการไปรับผิดชอบงานในสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.)ซึ่งมีพันธกิจที่ยากและมากกว่า อีกทั้งในช่วง2ปีที่ผ่านมาเอสเอ็มอีแบงก์ก็เดินหน้าตามแผนได้ดี

“การเปลี่ยนประธานบอร์ดไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของธนาคาร เพราะกรรการคนอื่นก็ยังเป็นชุดเดิม ส่วนประธานบอร์ดคนใหม่ก็เป็นปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งเป็นกระทรวงที่กำกับดูแลธนาคารรวบคู่กับกระทรวงการคลังอยู่แล้ว”

ทั้งนี้ยังมั่นใจว่าการดำเนินงานของธนาคารจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และสามารถออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ คือสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ในปีนี้3.5หมื่นล้านบาท ปรับลดหนี้เสียหรือเอ็นพีแอลให้อยู่ในระดับที่ไม่เกิน1.8หมื่นล้านบาท จากข้อมูลล่าสุดในเดือนส.ค.ธนาคารปรับลดเอ็นพีแอลลงเหลือ1.9หมื่นล้านบาท

เธอกล่าวต่อว่า ธนาคารได้เปิดตัวโครงการสินเชื่อซอฟท์โลน 3( Soft Loan3) วงเงิน3พันล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำ 4% เพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สำหรับผู้ประกอบการในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล หลังจากก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวในต่างจังหวัดมาแล้ว มียอดคำขอรวมกันเกือบ1พันล้านบาท

โดยวงเงินกู้สูงได้ถึง 90% ของใบสั่งซื้อเครื่องจักร ใหม่ ดอกเบี้ยต่ำเพียง 4% ต่อปีตลอดอายุสัญญา กู้สูงสุดถึง 7 ปี ไม่ต้องจ่ายเงินต้นนาน 12 เดือน กู้ได้สูงสุดถึง 15 ล้านบาท และหากกู้ไม่เกิน 10 ล้านบาท ไม่ต้องประเมินราคาและไม่ต้องจดจำนองเครื่องจักร สามารถใช้ บสย.ค้ำประกันร่วมกับการจดแจ้งหลักประกันตาม พรบ. หลักประกันธุรกิจได้ ซึ่งเชื่อว่าสินเชื่อดังกล่าวจะตอบสนองความต้องการผู้ประกอบการ SMEs ได้ตรงใจ สามารถช่วยให้กิจการเดินหน้าขยายกำลังการผลิตให้ธุรกิจเติบโตยิ่งขึ้น