ชง'ปปง.'ฟัน 'หญิงไก่-กิมเอ็ง' แฉ3ทหารยศ'พ.อ.'อยู่เบื้องหลัง

วานนี้ (28ส.ค.) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนกรณีความคืบหน้าและทิศทางการดำเนินคดีกับนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือหญิงไก่ ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นเบื้องสูง และนางกมนทรรศน์ หรือดวงฤทัย ธนธรณ์โฆษิตจิร หรือแม่ตุ่ม หรือกิมเอ็ง ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ซึ่งเป็นพี่สาวของนางมณตา ว่านางมณตากับนางกมนทรรศน์ มีความสัมพันธ์เป็นพี่น้องต่างมารดากัน ซึ่งในวันพรุ่งนี้เวลา 11.00น. ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสื่อถึงเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เกี่ยวกับเรื่องให้ตรวจสอบทรัพย์สินนางกมนทรรศน์ ในคดีที่กองปราบได้จับกุมตัวและรอการขยายผลอยู่ว่ามีความสัมพันธ์กันในเรื่องเส้นทางการเงินระหว่างทั้งคู่ว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่

แต่เบื้องต้นทราบว่าทั้งสองคนมีพฤติการณ์ลักษณะแอบอ้างสถาบันคล้ายๆกันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งเร็วๆนี้ทางปปง.จะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนางมณตา

นายสงกานต์ กล่าวต่อว่าส่วนเครือข่ายของนางมณตา นั้นตนคิดว่าไม่สามารถทำคนเดียวได้ต้องมีการทำงานเป็นขบวนการซึ่งตนได้ส่งเอกสารสำคัญให้ผู้บัญชาการสอบสวนกลางตลอดเวลา ไม่น่าเกินวันที่ 15 กันยายนนี้ เครือข่ายนางมณตา ทั้งหมดจะรู้ผลว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง

อย่างไรก็ตาม ขบวนการนางมณตา มีนายทหารระดับพันเอกอยู่เบื้องหลังด้วยแน่นอนประมาณ 3 คน ซึ่งทหารเหล่านั้นได้ให้ข้อมูลไว้ว่าถูกหลอกลวง และมีทหารชั้นประทวนร่วมอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีภาพบุคคลในลักษณะแต่งกายคล้ายทหารที่ปรากฏในภาพถ่ายร่วมกับนางกมนทรรศน์ แต่ต้องรอการตรวจสอบอีกครั้งเป็นบุคคลเดียวกันกับภาพของนางมณตา ด้วยหรือไม่ ส่วนอีกหนึ่งภาพที่ปรากฏว่ามีบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ของสำนักพระราชวังนั้นต้องรอการยื่นยันอีกครั้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่เนื่องจากเห็นแต่ด้านหลังอย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าทหารที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องมีทั้งสมัครใจและถูกหลอกเข้ามาให้ร่วมขบวนการ

“ส่วนเรื่องการดำเนินคดีกับ น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือ น้องก้อย และครอบครัว ซึ่งเป็นอดีตลูกจ้างของหญิงไก่ ข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง ซึ่งทางพนักงานสอบสวนสน.ประชาชื่นได้รับแจ้งว่าคดีดังกล่าวเป็นที่ยุติแล้ว ว่าพ่อแม่น้องก้อยทางพนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้อง พ่อแม่น้องก้อยก็ไม่ต้องมาที่สน.ประชาชื่นแล้ว ส่วนคดีของน้องก้อยที่อยู่ในชั้นอัยการฝ่ายคดีเยาวชนนั้นต้องไปพบกับพนักงานอัยการในกลางเดือนกันยายน และมีทิศทางที่ดีเนื่องจากอัยการทราบว่านางมณตาได้แจ้งความเท็จ แต่ในทางคดีแม้อัยการจะมีความเห็นไม่ควรสั่งฟ้องก็ตามตามแต่จะต้องส่งสำนวนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ทำความเห็นแย้ง คดีถึงจะยุติได้”นายสงกานต์ กล่าว

นายสงกานต์ กล่าวต่อว่าอีกกรณีที่นางมณตา เคยประกาศว่ามีลูกจ้างกว่า100คน เดินทางไปทำงานในต่างประเทศ ซึ่งขณะมีนางประนอม อินตะแสน ชาวจ.พะเยา ที่เป็นผู้เสียหายถูกหลอกให้ไปใช้แรงงานที่ไต้หวัน โดยบริษัทจัดหางานได้เรียกค่าใช้จ่ายเป็นเงิน70,000บาท แต่เมื่อไปทำงานกลับพบว่าไม่มีงานให้ทำต้องถูกลอยแพและถูกลวนลามโดยนายจ้าง ก่อนที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่แรงงานของไทยที่ไต้หวัน

ทั้งนี้นางประนอมได้เดินทางกลับมายังประเทศไทยแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ทางตนก็จะพานางนางประนอม เดินทางไปร้องทุกข์ต่อผู้ตรวจการแผ่นดินในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ เวลา 11.00 น. จากนั้นวันเดียวกันเวลา13.30 น.จะพานางประนอมและเพื่อนๆที่เป็นแรงงานไปให้ถ้อยคำต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อทำการสอบปากคำในกระบวนการที่เรียกรับเงินและหาผลประโยชน์จากมนุษย์ ว่าจะมีความผิดฐานค้ามนุษย์หรือไม่