2ผู้บริหาร 'รอยัล เจมส์' มอบตัวสู้คดี ปมทัวร์ฉาวหมื่นล้าน

2ผู้บริหาร 'รอยัล เจมส์' มอบตัวสู้คดี ปมทัวร์ฉาวหมื่นล้าน

2ผู้บริหาร "รอยัล เจมส์" ยอมมอบตัวสน.พญาไท หลังโดนหมายจับข้อหาอั้งยี่ พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปม "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" หมื่นล้าน

นางนิสา รุ่งโรจน์รังสี และ นายวสุรัตน์ รุ่งโรจน์รังสี สองผู้บริหารของบริษัทในเครือรอยัล เจมส์ ได้เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.ธรรมรักษ์ เรืองดิษฐ์ สว.(สอบสวน) สน.พญาไท หลังถูกตำรวจท่องเที่ยวออกหมายจับในสองข้อหา ประกอบไปด้วย ข้อหาอั้งยี่ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 109 แบะกระทำการหรือร่วมกันกระทำการอันใดที่ก่อให้เกิดผลเสียหายต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

โดยเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำสองผู้บริหาร ซึ่งทั้งสองให้การปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา พร้อมกับขอยื่นประกันตัวในชั้นสอบสวน ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ให้ทั้งสองประกันตัวด้วยวงเงินสูงสุด โดยนางนิสา ได้ยื่นประกันตัวในวงเงิน 8 แสนบาท และนายวสุรัตน์ ยื่นประกันตัวด้วยวงเงิน 2 แสนบาท

ทั้งนี้ การออกหมายจับสองผู้บริหาร สืบเนื่องจากทางกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว โดยพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.ทท. สั่งให้ชุดสืบสวนของบก.ทท.ขยายผลการจับกุมผู้ที่มีส่วนความเกี่ยวพันกับบริษัทฝูอัน ทราเวล และบริษัทชิงหยวน ซึ่งเป็น 2 บริษัทนำเที่ยว ที่ถูกบุกจับเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ในข้อหาสวมบัตรประชาชนคนไทย มาประกอบธุรกิจนำเที่ยว กระทั่งสืบทราบว่าบริษัทรอยัล เจมส์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท บางกอก แฮนดิกราฟท์เซ็นเตอร์ จำกัด บริษัทรอยัล ไทยเฮิร์บจำกัด บริษัทโอเอ จำกัด และบริษัทรอยัล พาราไดซ์ จำกัด โดยประกอบธุรกิจให้บริการรถเช่า จำหน่ายเครื่องเพชร เครื่องหนัง และยาสมุนไพร มีนางนิสา รุ่งโรจน์รังสี และนายวสุรัตน์ รุ่งโรจน์รังสี เป็นผู้บริหาร จึงนำไปสู่การสนธิกำลังตำรวจท่องเที่ยว ทหาร ดีเอสไอ ปปง. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว กระจายกำลังกันตรวจค้น ทั้ง 5 บริษัท เพื่อตรวจยึดเอกสารที่มีความเชื่อมโยงไปตรวจสอบ

มีรายงานจากชุดสืบสวนของกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า จากแนวทางการสืบสวนพบบริษัททั้ง 5 แห่งนี้ถือว่าเป็นบริษัททำทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยมีเครือข่ายซึ่งเป็นร้านค้ากระจายตัว อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ ซึ่งเบื้องต้นพบว่า 1 ใน 5 บริษัทให้บริการรถเช่า มากกว่า 7,000 คัน

ทั้งนี้ทางดีเอสไอ สรรพากร กรมการท่องเที่ยว กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และปปง.ได้ตรวจยึดและอายัดเอกสาร ที่เกี่ยวข้องในบริษัท เพื่อนำไปสอบสวนขยายผลหลายรายการ โดยเบื้องต้นเชื่อว่า ทั้ง 5 บริษัทมีเงินหมุนเวียนและทรัพย์สินนับ 10,000 ล้านบาท