นักวิชาการ แจงกทม.ไม่มีต้นกำเนิดแผ่นดินไหว

ดร.ไพบูลย์ นวลนิล อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวในรายการกรองข่าววันเสาร์ เอฟเอ็ม 102 ถึงกระแสหวั่นวิตกถึงปรากฏการณ์แผ่นดินไหวว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศอิตาลีไม่เชื่อมโยงกับประเทศเมียนมา การจะเหนี่ยวนำให้เกิดแผ่นดินไหวซ้ำขึ้นอีกต้องอยู่ในรัศมีใกล้เคียงกันพอสมควร จึงไม่ต้องหวั่นวิตกว่าเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวจะเชื่อมโยงมาถึงประเทศไทย ทั้งนี้แผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ในรอบเดือนที่ผ่านมาเหตุแผ่นดินไหวขนาดเกิน 6 ริกเตอร์ เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับความสนใจเพราะไม่มีผู้เสียชีวิต จากสถิติในแต่ละปีแผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์ขึ้นไป จะเกิดขึ้นประมาณเดือนละครั้ง เฉลี่ยสูงสุด 15 ครั้งต่อปี ขนาด 8 ริกเตอร์ขึ้นไป จะเกิดขึ้นปีละครั้งซึ่งในปีนี้ยังไม่เกิดขึ้นเลย โดยแผ่นดินไหวสูงสุดของปีนี้อยู่ที่ 7.7 ริกเตอร์ ส่วนแผ่นดินไหวขนาด 4 ริกเตอร์ขึ้นไป จะเกิดขึ้นวันละประมาณ 20 ครั้ง ถือว่าแผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกวัน แต่ด้วยเหตุที่หลายประเทศทั่วโลกมีสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวมากขึ้น ปัจจุบันไทยมี 40 สถานี และในเร็วๆนี้จะเพิ่มเป็น 50 สถานี ขณะที่ญี่ปุ่นและอมริกามีสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวหลาย 1,000 แห่ง ทำให้มีการรายงานผลอย่างรวดเร็ว จนประชาชนที่รับข่าวสารคิดว่ามีแผ่นดินไหวมากขึ้น         

ดร.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า สำหรับประเทศไทยมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวได้ในทุกรอยเลื่อน เพียงแต่จะเกิดขนาดกี่ริกเตอร์เท่านั้น ในส่วนภาคเหนือเกิดแผ่นดินไหวทุกวันขนาด 1-2 ริกเตอร์ แทบไม่รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน จึงไม่มีอะไรต้องกังวลส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการเตรียมความพร้อมค่อนข้างดี หน่วยราชการและประชาชนให้ความสนใจฝึกซ้อมเตรียมพร้อมอพยพ กรมโยธาธิการก็กำหนดให้การก่อสร้างอาคารสูงทนแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว ส่วนอาคารเก่าที่สร้างก่อนกฎหมายใหมมีผลบังคับใช้นั้นส่วนใหญ่สร้างในเมือง แต่รอยเลื่อนต่างๆอยู่ในแถบภูเขาสูง แรงสั่นสะเทือนมาไม่ถึงในตัวเมือง เมื่อแผ่นดินไหวจึงไม่มีการพังถล่มเหมือนเจดีย์ในประเทศเมียนมา   

สำหรับความวิตกกังวลว่า กรุงเทพฯมีสภาพดินอ่อนหากเกิดแผ่นดินไหวจะมีความเสียหายรุนแรงนั้น ดร.ไพบูลย์ กล่าวว่าเป็นความเข้าใจผิด กทม.ไม่เคยตรวจวัดแผ่นดินไหวได้เลย หรือพูดได้ว่ากทม.ไม่มีต้นกำเนิดแผ่นดินไหว ขอให้สบายใจได้ ส่วนเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดในเมียนมา จ.กาญจนบุรี หรือจ.เชียงใหม่ แล้วส่งแรงสั่นสะเทือนมาถึงกทม. แม้ในทางวิทยาศาสตร์จะระบุว่าด้วยสภาพดินอ่อนจะเพิ่มความรุนแรงของแผ่นดินไหวได้ 2-3 เท่าก็จริง แต่ด้วยระยะทางห่างไกลทำให้ลดความสั่นสะเทือนไปได้มาก การรับรู้แผ่นดินไหวจึงเกิดขึ้นเฉพาะตึกสูงเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงบนตึกสูงแค่ลมพัดแรงก็รับรู้ถึงความสั่นไหวแล้ว ที่ผ่านมาเหตุแผ่นดินไหวเกิน 8-9 ริกเตอร์ในประเทศห่างไกลแรงสั่นสะเทือนก็มาไม่ถึงประเศไทย ทั้งนี้แผ่นดินไหวที่มีแรงสั่นสะเทือนสูงสุดเกิดขึ้น 9.5 ริกเตอร์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสูงสุดแล้ว ไม่น่าจะไปถึง 10 หรือ11 ริกเตอร์ ส่วนแผ่นดินไหวต่ำสุดอาจจะติดลบ 1 หรือ ลบ 2 ริกเตอร์        

ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับเขื่อนต่างๆ นั้น ดร.ไพบูลย์ กล่าวว่า มาตรฐานของเขื่อนทุกแห่งทั่วโลกออกแบบให้ทนรับแรงสั่นสะเทือน 10 เปอร์เซ็นต์ ของแรงโน้มถ่วงโลก เหตุแผ่นดินไหวที่เมียนมา สถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวที่เขื่อนภูมิพล และเขื่อนศรีนครินทร์ วัดแรงสั่นสะเทือนได้น้อยมากๆ แทบไม่รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน แต่เครื่องมือตรวจจับได้ จึงขอให้มั่นใจเพราะทุกหน่วยงานต่างมีการเฝ้าระวังในทุกรอยเลื่อน มีสถานีตรวจวัดทุกรอยเลื่อนไม่ละเลยรอยเลื่อนใดเลย