กลุ่มอสังหาฯกำไรโต38%ครึ่งปีแตะ1.9หมื่นล้าน

กลุ่มอสังหาฯกำไรโต38%ครึ่งปีแตะ1.9หมื่นล้าน

กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รายงานกำไรครึ่งปีแรก 1.93 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 38.5% พบ 8 บริษัท กำไรโตเกินเท่าตัว ‘สัมมากร’ เด่นสุด พุ่ง 2,351%

จากรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 24 แห่ง ในช่วงครึ่งปีแรก มีกำไรรวม 1.93 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.5% จากปีก่อน โดยไตรมาส 2/2559 มีกำไรรวม 1.03 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.7% จากปีก่อน

ทั้งนี้บริษัท 8 แห่ง มีกำไรเพิ่มขึ้นเกินกว่า 100% ได้แก่ สัมมากร (SAMCO) มีกำไร 123.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,351.19% เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (MJD) มีกำไร 326.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 907.09% เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) มีกำไร 555.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 401.44% สิงห์ เอสเตท (S) มีกำไร 162.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 239.13% ริชี่ เพลซ 2002 (RICHY) มีกำไร 30.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 207.8% อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) มีกำไร 358.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 145.52% แผ่นดินทอง (GOLD) มีกำไร 560.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136.09% และเอสซี แอสเสท (SC) มีกำไร 1,359.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.64%

บริษัทที่มีกำไรสูงสุดอย่าง แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) มีกำไร 4,626.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.70% ส่วนพฤกษา (PS) มีกำไร 3,139.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.61% และศุภาลัย (SPALI) มีกำไร 2,831.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.56%

นายธีรธัชช์ สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) PF เปิดเผยว่า แนวโน้มของอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะคึกคักมากกว่าครึ่งปีแรก โดยสังเกตได้จากหลายบริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังเป็นส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับบริษัทเองที่มีแผนจะเปิดตัวถึง 15 โครงการ มูลค่ารวม 18,700 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 11,000 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 7,700 ล้านบาท

“การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ และทางพิเศษสายใหม่ ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมีทำเลในการพัฒนาที่ดินมากยิ่งขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจโดยภาพรวมก็ค่อยๆ ฟื้นตัวได้ โดยบริษัทคาดว่ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์โดยรวมปีนี้น่าจะโตได้ราว 5%”

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเติบโตต่อจากนี้จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไป โดยหลายๆ บริษัทเริ่มมองหาธุรกิจอื่นเข้ามาเสริมยิ่งขึ้น และการพัฒนาจะเป็นรูปแบบผสมผสานระหว่างโครงการหลายๆ รูปแบบ อาทิ คอนโดมิเนียม คอมมูนิตี้ มอลล์ โรงแรม

“แต่ละปีบริษัทอสังหาฯ เปิดตัวโครงการมูลค่ารวมกันระดับแสนล้านบาท ซึ่งการหาคนมาซื้อสินค้าทุกปีในระดับนี้ก็เริ่มยากขึ้น ทำให้ตลาดเริ่มจะอิ่มตัว เราจึงเห็นหลายบริษัทเริ่มแตกออกไปหาธุรกิจอื่นเข้ามาเสริม อย่าง พฤกษาเองก็ปรับเป็นโฮลดิ้งส์ คอมพานี เสนาก็เริ่มแตกออกไปหาธุรกิจพลังงาน หรืออย่างเฟอร์เพคเองก็ดึงแกรนด์ (GRAND) เข้ามาเสริมธุรกิจโรงแรม รวมถึงมีแผนที่จะพัฒนาธุรกิจค้าปลีกเพิ่มเติม”

สำหรับธุรกิจค้าปลีกนี้ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจารายละเอียดกับพันธมิตรรายหนึ่ง โดยมีแผนจะพัฒนาโครงการร่วมกัน 3 แห่ง ในลักษณะคอมมูนิตี้ มอลล์ บริเวณรัชดา มูลค่าราว 10,000 ล้านบาท และอีก 2 แห่ง บริเวณรามอินทรา และศรีราชา โดยจะมีความชัดเจนและเปิดเผยรายละเอียดได้ภายในไตรมาส 4 นี้

ขณะที่แผนการตั้งกองรีท จำเป็นต้องเลื่อนออกไปเป็นช่วงปลายปี 2560 จากเดิมคาดว่าจะตั้งได้ในปลายปีนี้ เพราะสินทรัพย์ที่จะนำมาเข้ากองคือ โรงแรม 3-4 แห่ง ผลประกอบการโดยรวมของธุรกิจนี้ยังไม่ดีนัก และล่าสุดต้องประเมินผลกระทบจากเหตุระเบิดที่หัวหินอีกด้วย เนื่องจากบริษัทมีโรงแรม 2 แห่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่