Berkshire ตุนเงินสดทุบสถิติใหม่ 'บัฟเฟตต์' มองตลาดหุ้นและแอปเปิ้ลเป็นขาลง
'เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์' ตุนเงินสดสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่ 1.89 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมขายหุ้นแอปเปิ้ล นักวิเคราะห์มองเป็น 'สัญญาณลบตลาดหุ้นสหรัฐ'
ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทลงทุนยักษ์ใหญ่ "เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์" (Berkshire Hathaway) เมื่อวันเสาร์ที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากประเด็นการสืบทอดทายาทต่อจากยุค "วอร์เรน บัฟเฟตต์" วัย 93 ปีที่ทุกฝ่ายจับตามองแล้ว เรื่องของการถือ "เงินสด" ในปริมาณสูงสุดทุบสถิติใหม่ และการขายหุ้น "แอปเปิ้ล อิงค์" ก็เป็นประเด็นที่หลายฝ่ายให้ความสนใจเช่นกัน
เบิร์กเชียร์รายงานตัวเลขเงินสดในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่ 1.89 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 6.95 ล้านล้านบาท) ณ สิ้นสุดไตรมาส 1 ปีนี้ และบัฟเฟตต์คาดว่าปริมาณเงินสดจะเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 2 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 7.36 ล้านล้านบาท) ภายในสิ้นสุดไตรมาสปัจจุบัน
ตุนเงินสด-สัญญาณตลาดหุ้นขาลง
บิลล์ สมีด ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ บริษัทสมีด แคปิทัล แมเนจเมนท์ และยังเป็นผู้ที่จับตาบัฟเฟตต์มาเป็นเวลานาน เปิดเผยกับยาฮูไฟแนนซ์ว่า การตุนเงินสดมหาศาลเช่นนี้อาจเป็นสญญาณว่าบัฟเฟตต์กำลังมองว่าตลาดหุ้นสหรัฐเป็นขาลง
"บัฟเฟตต์มองตลาดหุ้นเป็นขาลง จากการตุนเงินสดมหาศาลที่คาดว่าจะพุ่งไปแตะ 2 แสนล้านดอลลาร์ และจากการขายหุ้นแอปเปิ้ลที่เขามองไม่เห็นกำไร" สมีดกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทรายงานกำไรจากการดำเนินงานไตรมาสแรก 1.12 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 39% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 8.07 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่การตุนเงินสดก็สูงขึ้นจากไตรมาสก่อนที่เป็นระดับทุบสถิติเช่นกัน
(ภาพบัฟเฟตต์วัย 93 ปี ในการประชุมผู้ถือหุ้นปี 2567 โดยเป็นการประชุมที่ขาดคู่หู ชาร์ลี มังเกอร์ ที่เสียชีวิตไปเมื่อปลายปีที่แล้ว)
บลูมเบิร์กรายงานว่า บัฟเฟตต์เคยบ่นมาแล้วก่อนหน้านี้ถึงการไม่มีดีลการลงทุนที่น่าสนใจมากพอให้เข้าซื้อ จนเป็นเหตุให้เงินสดของบริษัทพุ่งสูง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีดีลใหญ่ๆ เกิดขึ้นบ้าง เช่น การซื้อกิจการบริษัท Alleghany Corp. ในดีลมูลค่า 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์ และการซื้อหุ้นในบริษัทพลังงาน Occidental Petroleum Corp.
"ผมไม่คิดว่าจะมีใครที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนี้มีความคิดว่าจะใช้มันให้มีประสิทธิภาพมากพอ ดังนั้นเราจึงไม่ใช้มัน" บัฟเฟตต์ตอบคำถามผู้ถือหุ้นเรื่องการถือเงินสดมหาศาลของเบิร์กเชียร์
"ในขณะที่โลกมีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งซับซ้อนและเกี่ยวพันกันมากขึ้น ก็อาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้มากขึ้นเช่นกัน ...และคุณก็อยากได้จังหวะที่เข้าลงมือได้ทันทีหากเกิดสิ่งนั้นขึ้น " บัฟเฟตต์กล่าวเสริม
ขายหุ้นแอปเปิ้ล 13%
เบิร์กเชียร์ยังรายงานการ ขายหุ้น แอปเปิ้ล อิงค์ (ขายหุ้น Apple) ลง 13% โดยมีหุ้นแอปเปิ้ลในพอร์ต ณ สิ้นไตรมาสแรกอยู่ที่ 1.354 แสนล้านดอลลาร์ ลดลงจากมูลค่า ณ สิ้นปีที่แล้วที่ 1.743 แสนล้านดอลลาร์ ท่ามกลางข่าวร้ายของแอปเปิ้ลอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การถูกปรับเรื่องการผูกขาดตลาด 2 พันล้านดอลลาร์ ไปจนถึงยอดขายที่ลดลงในตลาดจีน และการยกเลิกโปรเจกต์แอปเปิ้ลคาร์
อย่างไรก็ตาม บัฟเฟตต์ยังคงกล่าวชื่นชมแอปเปิ้ลในการประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งมี "ทิม คุก" ซีอีโอของแอปเปิลอิงค์เข้าร่วมด้วยว่า แอปเปิ้ลยังเป็นธุรกิจที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับอีก 2 บริษัทที่เบิร์กเชียร์ถือหุ้นอยู่ คือ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส และโคคาโคล่า และย้ำว่าเบิร์กเชียร์จะยังคงถือหุ้นแอปเปิ้ลไปจนถึงสิ้นปี
