พลิกปูม! ม.44เชือด 'บูรณุปกรณ์' ให้ 'ชินวัตร' หนาว!?

ก่อนจะมีคำสั่งหน.คสช.ที่44/2559 ให้ บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ระงับการปฏิบัติ ราชการหรือหน้าที่ในองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคําสั่ง โดยไม่ได้รับค่าตอบแทน จากกรณีจนท.บุกตรวจจับร่างรธน.ปลอมไปก่อนหน้านี้

น่าสนใจว่า ข่าวใหญ่ในวันหยุดสัปดาห์ เมื่อทหารมณฑลทหารบกที่ 33 และตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 10 จุด ซึ่งเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องต่อกระบวนการส่งจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ

เป้าหมายใหญ่ได้แก่ บริษัท ทัศนาภรณ์ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวของตระกูล “บูรณุปกรณ์” และบ้านใกล้เคียงในบริเวณนั้น

เบื้องต้น พบหลักฐานจำนวนมาก พร้อมกับรถจักรยานยนต์ และเครื่องแต่งกายตรงกับผู้ที่ก่อเหตุตระเวนหย่อนจดหมายลงตู้ไปรษณีย์ที่กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้  

เอ่ยชื่อ “ทัศนาภรณ์” คนเชียงใหม่ทราบดีว่า เป็นธุรกิจเก่าแก่ของตระกูล “บูรณุปกรณ์” โดยเริ่มจากเป็นร้านขายผ้าพื้นเมือง ก่อนจะต่อยอดมาทำธุรกิจอื่น

ตระกูล “บูรณุปกรณ์” นับเป็นตระกูลเก่าแก่สายหนึ่งของเชียงใหม่ แม้จะมีประวัติความเป็นมาไม่ยิ่งใหญ่เทียบเท่า “ชินวัตร” หรือ “นิมมานเหมินท์” ที่โด่งดังมาก่อน

สำหรับวันนี้ “บูรณุปกรณ์” เป็นกลุ่มตระกูล ที่ได้ก้าวขึ้นมาครองความยิ่งใหญ่ ทั้งด้านธุรกิจ และการเมืองของเชียงใหม่

อาณาจักรธุรกิจของ “บูรณุปกรณ์” เริ่มจาก “นายใช้” เดินทางจากเมืองจีน มาปักหลักอยู่เชียงใหม่เปิดร้านขายของชำชื่อ “จิ้มชุ่ยใช้” อยู่ย่านกาดหลวง กับนางจิตรา ภรรยา และมีลูกๆ อีก 11 คน ช่วยเหลือกิจการของร้านเล็กๆ แห่งนั้น ปี 2512 “นายใช้” เห็นว่ากิจการร้านขายของชำมีแนวโน้มไม่ดี จึงตัดสินใจขยายกิจการ ด้วยเปิดร้านขายผ้าพื้นเมืองชื่อ “ทัศนาภรณ์” ซึ่งนับว่าเป็นจุดเปลี่ยนหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวมีฐานะดีขึ้นตามลำดับ

บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ทายาทคนที่ 10 ของนายใช้ เป็นฟันเฟืองสำคัญของกลุ่มธุรกิจตระกูลบูรณุปกรณ์

ปัจจุบัน เครือข่ายธุรกิจบูรณุปกรณ์นั้น ครอบคลุมธุรกิจหลายด้าน ทั้งธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้ ธุรกิจโรงแรมย่านถนนช้างคลาน ธุรกิจร้านจำหน่ายของที่ระลึกตลอดเส้นทางเชียงใหม่-สันกำแพง และธุรกิจเรียลเอสเตท

เชื่อกันว่าเครือข่ายของธุรกิจตระกูลนี้ น่าจะมีมูลค่านับพันล้านบาท

ส่วนเส้นทางการเมืองของ “บูรณุปกรณ์” นั้น สองพี่น้อง “บุญเลิศ” กับ “ปกรณ์” ได้ก้าวเข้ามาเล่นการเมืองท้องถิ่น ในนาม “กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม” โดยทั้งพี่และน้อง ต่างก็ได้เป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่

ปี 2543 ทักษิณ ชินวัตร มอบให้น้องสาว-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่เป็นแม่ทัพภาคเหนือ กวาดต้อนกลุ่มการเมืองและธุรกิจ ให้เข้ามาอยู่ใต้ร่มธงไทยรักไทย

“เยาวภา” จึงทาบทามตระกูลบูรณุปกรณ์ ให้มาร่วมสร้างไทยรักไทยภาคเหนือ โดย ”ปกรณ์” ไม่ปฏิเสธคำเชิญของตระกูลชินวัตร

เดิมที “ปกรณ์” เคยลงสมัคร ส.ส.เชียงใหม่ ในนามพรรคชาติพัฒนา แต่ไม่ประสบชัยชนะ จนเปลี่ยนสีเสื้อมาเป็นพรรคไทยรักไทย ปกรณ์ก็ได้เป็น ส.ส.เชียงใหม่ ถึง 2 สมัย

จากนั้น สายสัมพันธ์ตระกูลชินวัตร กับบูรณุปกรณ์ ก็แนบแน่นแทบจะเป็นทองแผ่นเดียวกัน จนกระทั่ง “ปกรณ์” เสียชีวิตกะทันหัน ก็ได้นำตัวหลานสาวของปกรณ์คือ ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ มาลงสมัคร ส.ส.แทน

ด้วยบารมีของทักษิณ ชินวัตร จึงทำให้ บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ได้เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ 2 สมัย

ส่วนเทศบาลนครเชียงใหม่ ฐานที่มั่นการเมืองของตระกูลบูรณุปกรณ์ ในวันนี้ ก็ยังมีหลานชายของบุญเลิศคือ ทัศนัย บูรณุปกรณ์เป็นนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่

การที่ คสช.เปิดศึกชนตระกูล “บูรณุปกรณ์” ย่อมสะเทือนถึงเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แม่ทัพเพื่อไทย ส่งผลให้เกมการเมืองประชามติ ร้อนฉ่าขึ้นมาโดยพลัน