คอมมาร์ตยังหวังเงินสะพัด2พันล้าน-ไอดีซีชี้ไอทีไตรมาสแรกทรุด

คอมมาร์ตยังหวังเงินสะพัด2พันล้าน-ไอดีซีชี้ไอทีไตรมาสแรกทรุด

คอมมาร์ตเมินคู่แข่งงานใหม่ชิงเค้กเงินซื้อขายในงานไอที เชื่อเจาะขาจร-โชว์เทคโนฯ จุดขายต่าง “คอมมาร์ต” เน้นตลาดซื้อขายชัดเจน

อุตสาหกรรมไอซีที แม้ไม่คึกคักเช่นอดีต แต่การจัดงานมหกรรมขายสินค้ายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ในวันเวลาเดียวกัน การจัดงานเกิดขึ้นจากผู้จัดสองค่าย หน้าเก่าอย่างเออาร์ไอพี ผู้จัดงานคอมมาร์ต มายาวนาน และโชว์ไร้ขีด ที่โดดเข้าจัดงานไอทีครั้งแรก แต่ไม่ใช่หน้าใหม่ในแวดวง ส่วนสถานที่จัดงานไม่ห่างกันนักระหว่างศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กับดิ เอ็มควอเทียร์


นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอทีและดิจิทัล บมจ.เออาร์ไอพี ผู้จัดงานคอมมาร์ต เผยว่า พฤติกรรมการซื้อสินค้าไอทีของผู้บริโภคปัจจุบันเปลี่ยนไป ซึ่งผู้ซื้อสินค้าในงานคอมมาร์ตส่วนใหญ่มีเป้าหมายในการซื้ออยู่แล้ว ทำให้ราคาไม่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ แต่จะเน้นอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการ

พร้อมกับคาดว่าการจัดงานคอมมาร์ตครั้งที่ 2 ในรอบปีช่วงวันที่ 23-26 มิ.ย.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จะยังมีเงินสะพัดจากการซื้อสินค้าภายในงานใกล้เคียงกับทุกครั้งคือ 2,600 ล้านบาท ซึ่งกระแสการเปิดงานวันแรกก็พบว่า มีผู้เข้าร่วมงานในระดับที่น่าพอใจแม้จะอยู่ในบรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน


ส่วนงานไอทีที่จัดในช่วงเวลาเดียวกันคาดว่าจะไม่มีผลต่อคอมมาร์ต เนื่องจากเป้าหมายตลาดที่ต่างกัน ซึ่ง “คอมมาร์ต” เป็นมาร์เก็ตเพลสที่เน้นการซื้อขายสินค้าไอทีชัดเจน ส่วนงานอื่นที่จัดในช่วงเวลาเดียวกันเป็นงานที่จับผู้ซื้อขาจร และมีขนาดของงานเล็กกว่า ทั้งยังเน้นการโชว์เทคโนโลยีมากกว่าการซื้อของในงาน

ขณะที่ภาพรวมผู้ค้าภายในงานเริ่มนำเสนอสินค้าในมุมของเทคโนโลยีที่โดดเด่น หรือแตกต่างจากแบรนด์คู่แข่ง เช่น โน้ตบุ๊ค เกมมิ่ง รุ่นบางเฉียบจากเอชพี แต่ก็ยังทำโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมไปพร้อมกันด้วย เช่น เลอโนโวที่นำสินค้าทั้งโน้ตบุ๊ค แทบเล็ต และออลอินวัน ลดราคามาขายพร้อมกับโปรโมชั่นลดเพิ่มภายในงานอีก 1,500 บาท และของแถมเรียกความสนใจ เช่น ฮาร์ดดิสก์ 1 เทราไบต์, หูฟัง และลำโพง

“งานคอมมาร์ตเดิมๆ จะเห็นภาพของการแข่งราคาสินค้าดุเดือดมาเป็นการโชว์จุดขายของเทคโนโลนี เช่น ความบางของโน้ตบุ๊ค หรือสเปคเครื่องที่เจาะกลุ่มผู้เล่นเกม ส่วนราคาก็จะไปเน้นที่ความคุ้มค่า มีของแจกของแถมเพิ่ม”

นอกจากนี้ แบรนด์ต่างๆ ก็เริ่มนำสินค้าในกลุ่มอื่นๆ นอกเหนือจากคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) มาเรียกความสนใจ เช่น โดรน หรืออากาศยานไร้คนขับ สมาร์ทวอช และสินค้าอื่นๆ ในกลุ่มแวร์เอเบิล เทคโนโลยี

ผู้จัดคอมมาร์ต กล่าวว่า ในครั้งนี้ยังร่วมมือกับ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ พันธมิตรนอกกลุ่มธุรกิจไอที จัดโซน “แอคทีฟ อารีน่า” เพื่อนำคอนเทนท์และกิจกรรมเกี่ยวข้องกับการเล่นกีฬา และอุปกรณ์ไฮเทคสำหรับใช้ออกกำลังกายมานำเสนอ และสร้างประสบการณ์การใช้แวร์เอเบิลที่ถูกวิธี

ทั้งนี้เพราะที่ผ่านมาสินค้าแวร์เอเบิลเริ่มมีขายในตลาดไทยมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากยังไม่เห็นประโยชน์จริงๆ

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมงาน 70-80% ยังเป็นผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ในกลุ่มพีซีเป็นหลัก ส่วนที่เหลือเป็นแบรนด์ใหม่ๆ จากตลาดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สินค้าในกลุ่มอุปกรณ์ไฮเทคเพื่อสุขภาพ และเกมมิ่ง

“กลุ่มสินค้าเกี่ยวกับเกม ทั้งพีซีและโน้ตบุ๊ค ยังโตและแรงไม่มีตก อ้างอิงข้อมูลของซิป้า และทีดีอาร์ไอ สำรวจมูลค่าตลาดเกมรวมในปี 2557 อยู่ที่ 7,835 ล้านบาท โดยมูลค่าตลาดเกมบนพีซีสูงเป็นอันดับหนึ่ง คือเกือบ 6,000 ล้านบาท ซึ่งปี 2558 ตลาดเกมโต 15% และคาดการณ์ปี 2559 ว่าจะโตขึ้น 26.1% ดังนั้นในงานคอมมาร์ต จอย จะมีพีซีและโน้ตบุ๊คกลุ่มเกมมิ่งอยู่ในเกือบทุกแบรนด์หลัก และจัดโปรโมชั่นกระตุ้น”

ขณะที่ ข้อมูลจากบริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ พบว่า กระแสรักสุขภาพในไทยเติบโตมากขึ้น คนไทยเล่นกีฬาปีที่แล้ว 16 ล้านคน มูลค่าตลาดด้านกีฬารวมกว่า 12,000 ล้านบาท ส่งผลดีต่อสินค้าในกลุ่มแวร์เอเบิล เทคโนโลยี

ส่วนตลาดสินค้าไอทีกลุ่มเดิมพบว่า การสำรวจความเห็นจากผู้ขายพบว่าส่วนใหญ่มียอดขายจากงานคอมมาร์ตทั้ง 3 ครั้งสูงกว่ายอดขายปกติทั้งปี

“ภาพรวมเมื่อวัดจากการซื้อขายในคอมมาร์ต พบว่า ส่วนใหญ่คนที่มาเดินจะตั้งใจมาซื้อ ซึ่งยอดขายรวมอาจจะไม่สูงมากเหมือนเมื่อก่อน แต่ราคาเฉลี่ยของเครื่องที่ซื้อสูงขึ้น หรือมากกว่า 3 หมื่นบาทขึ้นไป ขณะที่การทำโปรโมชั่นของผู้ขายก็จะไม่รุนแรงลดแลกแจกแถมเหมือนเมื่อก่อน แต่จะเน้นการสร้างมูลค่าเพื่อดึงดูดการซื้อแบรนด์ตัวเอง เช่น ซื้อโน้ตบุ๊คแถมฮาร์ดดิสก์ จากเมื่อก่อนของแถมจะเป็นพวกแฟลชไดร์ฟถูกๆ”

นายพรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานครั้งนี้จะเป็นการช่วยกระตุ้นตลาดไอซีทีในไตรมาสที่ 2 ซึ่งโดยปกติจะเป็นช่วงที่ตลาดทรงตัว โดยภาพรวมของคอมมาร์ตช่วงต้นปีมีเงินสะพัดภายในงานที่ 2,900 ล้านบาท หรือสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

ช่วงเวลาเดียวกัน บริษัท โชว์ไร้ขีด จำกัด ประกาศจับมือพันธมิตรห้างสรรพสินค้า “ดิ เอ็มดิสทริค” จัดมหกรรมไอที “แบไต๋ เบสต์บาย" โชว์นวัตกรรมและเทคโนโลยีภายใต้คอนเซปต์ช็อปมันส์...เดินสบาย...งานไลฟ์สไตล์คนไอที ซึ่งมีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 23-26 มิ.ย. ที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์

นายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โชว์ไร้ขีด จำกัด กล่าวว่า การจัดงานแบไต๋ เบสต์บาย ครั้งแรกในไทยมุ่งนำเสนอสินค้านวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำๆ คุณภาพดี เหมาะสมกับราคา ไม่เน้นการลดแลกแจกแถม จากการการันตีคุณภาพโดยผู้ผลิตสินค้าและบริการทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โดยในงานเน้นนำเสนอกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น สาธิตการใช้งานคลื่นความถี่ของระบบ 4.5จี ให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้ และนำเสนอแว่นตาระบบ 3ดี รองรับการมองเห็นรอบทิศ 360องศา เชื่อมต่อด้วยระบบการมองเห็นจากสมาร์ทโฟน และงานสัมมนาให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจริง เช่น ภาวุธ พงษ์วิทยาภานุ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชื่อดังและต้นแบบนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างวิชัย ทองแตง นักลงทุนหุ้นตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย, วิชัย เบญจรงคกุล นักธุรกิจ และผู้บริหารบริษัทหลายแห่งในประเทศ

ด้านนายจาริตร์ สิทธุ ผู้จัดการฝ่ายงานวิจัย สายงานศึกษาตลาดไคลเอนต์ ดีไวซ์ ประจำไอดีซี ประเทศไทย กล่าวว่า ไตรมาสแรกปี 2559 การใช้จ่ายซื้อสินค้าพีซี, โทรศัพท์มือถือ และแทบเล็ตในกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป มีมูลค่ารวม 3.88 หมื่นล้านบาท ลดลง 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ปัจจัยหลักมาจากเม็ดเงินที่ใช้จ่ายซื้อโทรศัพท์มือถือลดลง 9% เพราะราคาเครื่องปรับลดลงมาก ทัั้งยังเป็นผลจากผู้ค้าลดราคา และกลยุทธ์แจกเครื่องฟรีของผู้ให้บริการระบบ


นอกจากนี้ยังเป็นผลจากการเสื่อมความนิยมของสินค้าประเภทแทบเล็ตที่มียอดลดลงกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า