'เปี่ยมวิไล' ศึกษาคู่ชก หวังคว้าเหรียญโอลิมปิก

'เปี่ยมวิไล' ศึกษาคู่ชก หวังคว้าเหรียญโอลิมปิก

“แสบ” เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม เจ้าของเหรียญเงิน

ชิงแชมป์โลกคนใหม่ วาดฝันไกลจะคว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่งในโอลิมปิกเกมส์ 2016 มาฝากคนไทย ก่อนอำลาทีมชาติไทย เผยได้ศึกษาจุดดีและจุดด้อยคู่แข่งในรุ่นฟลายเวท หมดทุกคนแล้ว

ความเคลื่อนไหวทัพมวยสากลสมัครเล่นหญิงทีมชาติไทย หลังจาก “แสบ” เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าเหรียญเงินในรุ่นแบนตัมเวท (51 กก.) ในการชกมวยสากลหญิงชิงแชมป์โลก รายการ “ไอบา วีเมนส์ บ็อกซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ อัสตานา 2016” รอบคัดเลือกกีฬาโอลิมปิกเกมส์ เลกสุดท้าย ที่ กรุงอัสตานา ประเทศคาซัคสถาน พร้อมทั้งสร้างสถิติเป็นนักชกหญิงคนแรกของไทยในประวัติศาสตร์ที่จะเดินทางไปร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ช่วงเดือนสิงหาคมนี้

ล่าสุด เปี่ยมวิไล เปิดเผยว่า การพ่ายแพ้ นิโคลา อดัมส์ ในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นเจ้าของเหรียญทอง “ลอนดอนเกมส์ 2012” ที่อังกฤษ  นั้น ยอมรับว่าสองยกแรกคะแนนตามหลังอยู่พอสมควรจึงต้องมาเร่งในสองยกสุดท้าย แต่มาถึงตรงจุดนี้ถือว่ามาไกลเกินฝันไปแล้ว เพราะก่อนเดินทางมารายการนี้หวังแค่เข้าถึงรอบ 4 คนสุดท้ายก็พอใจแล้ว  ซึ่งต้องยอมรับว่าคู่ชกรายนี้ฝีมือไม่ธรรมดาแถมยังมีความว่องไวในการฉกฉวยทำคะแนนอีกด้วย โดยเฉพาะจังหวะการเข้าทำที่ชัดเจนและมีประสบการณ์สูงกว่า

“อย่างไรก็ตาม จะนำบทเรียนความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น เพราะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านักชกรุ่น 51 กก.เหล่านี้จะต้องมาเจอกันอีกที่บราซิล ดังนั้นข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับมาทั้งจุดดีและด้อยจากนักมวยของโคลัมเบีย เม็กซิโก ฝรั่งเศส และ อังกฤษ จะต้องนำไปศึกษาหาทางหนีทีไล่ให้ดีกว่านี้ เพราะหวังในใจลึกๆว่าโอลิมปิกเกมส์หนนี้จะคว้าเหรียญใดหนึ่งกลับมาให้ได้เพื่อเป็นการปิดฉากการรับใช้ชาติหลังจากติดทีมชาติมายาวนานกว่า 10 ปีแล้ว การได้ตั๋วไปโอลิมปิกหนนี้ถือว่าเป็นรถไฟขบวนสุดท้าย หากไม่ได้ในครั้งนี้จะให้รออีก 4 ปีข้างหน้าคงไม่ไหว เพราะอายุและสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยเหมือนเมื่อก่อน ดังนั้นภารกิจต่อจากนี้ไป จึงต้องพร้อมและทำให้ดีที่สุด”

เปี่ยมวิไล ยังกล่าวอีกว่า ความสำเร็จครั้งนี้ต้องยกความดีความชอบให้ ขอบคุณ “บิ๊กชาย” นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคสมาคม “บิ๊กบางจาก” นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคม ที่คอยช่วยเหลือดูแลเรื่องงบประมาณและเปิดโอกาสให้ไปเก็บตัวฝึกซ้อมในต่างประเทศเพื่อเพิ่มเติมประสบการณ์ รวมไปถึงทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทั้งหมด อาทิ น.อ.ทวีวัฒน์ อิสลาม, สุบรรณ พันโนน และทรงศักดิ์ แก่นท้าว ที่คอยให้คำแนะนำดูแลทั้งในเรื่องของเทคนิคและพละกำลังต่างๆมานานแรมปี จนสามารถพัฒนาตัวเองดีขึ้นมาตามลำดับ จากเดิมที่เป็นคนค่อนข้างใจร้อน เวลาโดนชกแล้วมักจะรีบเอาคืน แต่พอฝึกสมาธิและได้รับคำชี้แนะที่ดีทำให้มีความเข้าใจและมีการวางแผนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อตอนคัดโอลิมปิก สนามแรก ที่จีน ยังไม่มีความแข็งแกร่งหรืออ่านเกมอะไรได้มากขนาดนี้ แต่พอได้รับการฝึกฝนทุกอย่างเป็นระบบและเคยชินจนทำให้ไปสู่ความสำเร็จได้