ปิดยืน 1400

ปิดยืน 1400

สรุปสภาวะตลาดสหรัฐและยุโรป (19-25 พ.ค. 2559)

สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปรับตัวขึ้น DJIA +1.9%, DAX +2.6%, CAC ฝรั่งเศส +3.8% และ FTSE +1.6% ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาเชิงบวกยอดขายบ้านใหม่เดือน เม.ย. ทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 ปี และแรงหนุนของหุ้นกลุ่มพลังงานเนื่องจากราคาน้ำมันดิบทำระดับสูงสุดใหม่ของปี 2559 และแรงหนุนของตลาดหุ้นยุโรป หลังกรีซบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้และได้รับเงินช่วยเหลือรอบใหม่ 

สรุปสภาวะตลาดหุ้นจีน (19-25 พ.ค. 2559)

สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้น 0.3% แกว่งตัวกรอบแคบ ทั้งนี้กลุ่มพลังงาน, เทคโนโลยีและค้าปลีกปรับตัวขึ้น ขณะที่กลุ่มขนส่งปรับตัวลง หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นทะลุแนว US$50/ barrel สำหรับ Brent นำโดย China Eastern Airlines, China Southern Airlines

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (19-26 พ.ค. 2559)

SET INDEX ปรับตัวลงก่อนเมื่อรายงานการประชุมเฟดเดือนเม.ย. ส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย. อย่างไรก็ตามหุ้นหลักในกลุ่มธนาคารขยับขึ้นเด่น รวมถึงกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีนำตลาดปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับน้ำมันดิบโลก SET INDEX ปิดที่ระดับ 1,401.64 จุด เพิ่มขึ้น 1.11 จุด หรือ 0.08% ณ วันที่ 26 พ.ค.
สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (27 พ.ค.-2 มิ.ย. 2559)

MBKET คงน้ำหนักการลงทุนเป็น “กลาง” เป็นสัปดาห์ที่ 5 พร้อมประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1,380-1,420 จุด ทั้งนี้ปัจจัยทั้งในและต่างประเทศสัปดาห์หน้าดูมีน้ำหนักต่อทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทย และทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ กับการเคลื่อนย้ายเงินทุนในแต่ละประเภทของสินทรัพย์ ไม่น้อย

ปัจจัยสำคัญอื่นๆ ในสัปดาห์หน้า ได้แก่

1. ติดตามการปาฐกถาของประธานเฟด Janet Yellen วันที่ 27 พ.ค. ต่อทิศทางเศรษฐกิจ และนโยบายการเงิน

2. ติดตามรายงาน Beige Book ของประธานเฟดทั้ง 12 สาขา วันที่ 1 มิ.ย. ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่ใช้ในการประชุมเฟดกลางเดือนมิ.ย.

3. ติดตามการประชุม ECB วันที่ 2 มิ.ย. คาดว่า ประธาน ECB อาจส่งสัญญาณเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ

4. ติดตามการประชุมโอเปก วันที่ 2 มิ.ย. ซึ่งอิหร่านอาจเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ และจะมีผลต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หลังกลับมายืนเหนือ US$50/barrel ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายวันที่ 26 พ.ค

5. ติดตามรายงานเศรษฐกิจไทย เดือนเม.ย. ของธปท. วันที่ 31 พ.ค. เพื่อประเมินภาพรวมเศรษฐกิจใน 2Q59

ด้วยปัจจัยแวดล้อมทั้งในและต่างประเทศที่มีนัยยะสำคัญ ทำให้ทิศทางตลาดหุ้นไทยจะถูกผลักดันไปในความเห็นของแต่ละปัจจัย ทำให้เราประเมินกรอบแกว่งกว้างขึ้นเป็น 1,380-1,420 จุด กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำให้นักลงทุนกลับมาเน้นเก็งกำไรเป็นรายตัวมากขึ้น พร้อมกับขายทำกำไร ณ บริเวณ 1,420 จุด +/- เพราะภาพรวมของตลาดหุ้นยังคงไร้ทิศทางไปจนกว่าจะถึงการประชุมเฟดในช่วงกลางเดือนมิ.ย.