ผลสำรวจชี้วัยรุ่นอเมริกันครึ่งหนึ่งรับติดมือถือ

ผลสำรวจชี้วัยรุ่นอเมริกันครึ่งหนึ่งรับติดมือถือ

ผลสำรวจล่าสุดในสหรัฐชี้ วัยรุ่นชาวอเมริกันครึ่งหนึ่งยอมรับว่าตัวเองติดสมาร์ทโฟน เช่นเดียวกับผู้ปกครองอีกกว่า 1 ใน 4

ผลสำรวจซึ่งทำโดย "คอมมอน เซนส์ มีเดีย" องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่เน้นช่วยเหลือเด็ก ผู้ปกครอง ครู และผู้กำหนดนโยบายในการรับมือกับสื่อและเทคโนโลยี พบว่า 50% ของวัยรุ่นที่ตอบแบบสำรวจรู้สึกว่าตัวเองติดอุปกรณ์เคลื่อนที่ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟน และผู้ปกครอง 59% ก็บอกว่าลูกของตนมีพฤติกรรมอย่างนั้นจริง

ผลสำรวจ ซึ่งเก็บข้อมูลจากผู้ปกครองและเด็กวัยรุ่นอายุ 12-18 ปีรวม 1,240 คน ระบุด้วยว่า 78% ของวัยรุ่นที่ตอบแบบสอบถามยอมรับว่า เช็คมือถือทุกชั่วโมง และ 72% ระบุว่า รู้สึกว่า จำเป็นต้องตอบข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ทันที

ขณะเดียวกัน แม้ผู้ปกครองหลายคนจะบ่นเกี่ยวกับอาการติดมือถือของลูกตัวเอง แต่ผลสำรวจนี้ยังพบว่า 27% ของผู้ปกครองที่ตอบแบบสอบถามรู้สึกว่าตัวเองติดสมาร์ทโฟนเช่นกัน และลูกของพวกเขา 28% ก็เชื่อเช่นนั้น นอกจากนี้ ผู้ปกครอง 69% ยอมรับว่าเช็คมือถือทุกชั่วโมง และ 48% รู้สึกว่าจำเป็นต้องตอบข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ทันที

ผู้เชี่ยวชาญด้านการแก้อาการติดดิจิทัล นายฮอลแลนด์ ไฮอิส กล่าวว่า พฤติกรรมติดเทคโนโลยีเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่หากพบว่าวัยรุ่นเลือกเล่นเกมในบ้านคนเดียว มากกว่าออกนอกบ้านไปดูภาพยนตร์ พบปะเพื่อนฝูง หรือใช้ชีวิตผิดแปลกไปจากวัยรุ่นทั่วไป ถือว่าเป็นปัญหาที่น่าห่วง

ผลการทบทวนงานวิจัย 18 ชิ้นเมื่อปี 2554 พบว่า อาการติดอินเทอร์เน็ตอาจส่งผลกระทบวัยหนุ่มสาวและนักศึกษามากถึง 26% ในสหรัฐ และแม้ในหลายประเทศทั่วโลก อาการดังกล่าวจะถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามสุขภาพประชาชน แต่ในสหรัฐยังไม่มีการยอมรับข้อเสียนี้แต่อย่างใด