แบงก์หนุน'สตาร์ทอัพ' ออกมาตรการหนุเอสเอ็มอี

นายชาติชาย พยุหาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารได้สนับสนุน ลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอีมาโดยตลอด การร่วมมือกับภาครัฐในการช่วยเหลือลูกค้าเอสเอ็มอีครั้งนี้ ธนาคารตั้งวงเงินสนับสนุน 4,000 ล้านบาท โดยวงเงินดังกล่าว จะมีการเร่งปล่อยสินเชื่อสับสนุนให้หมดภายในปีนี้ 

สำหรับวงเงินสินเชื่อดังกล่าวแบ่งเป็น สินเชื่อ 2,000 ล้านบาท และเป็นเงินทุนสนับสนุน 2,000 ล้านบาท และจะผลักดันลูกค้าเอสเอ็มรายใหม่ ที่ผ่านการประกวดโครงการเอสเอ็มอีของธนาคารให้ได้รับเงินสนับสนุนปีละ 10-100 รายด้วย

สำหรับช่องทางการให้สินเชื่อนั้น ธนาคารแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน คือ กลุ่ม start up หรือกลุ่มธุรกิจที่พึ่งเริ่มต้น วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท เงินทุนไม่เกิน 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 3.99-4.99% กลุ่มที่สองเป็นลูกค้าเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพสูง วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 50 ล้านบาท เงินทุนไม่เกิน 50 ล้านบาท ดอกเบี้ย 5-6% ส่วน ลูกค้ากลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มธุรกิจเพื่อสังคมวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 50 ล้านบาท เงินทุนไม่เกิน 50 ล้านบาท ดอกเบี้ย 5-6% 

พร้อมกันนี้ ธนาคารยังได้จัดตั้งหน่วยงานเข้ามาดูแลลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอีทั้ง 3 กลุ่มดังกล่าวครบวงจร ทั้งสนับสนุนนวัตกรรม พัฒนาผลิตภัณฑ์และเงินสินเชื่ออย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมหนี้เสีย ลูกค้าเอสเอ็มอีไม่ให้เกิน 2% 

กสิกรไทยเน้นช่วยเหลือ-ให้คำปรึกษา

นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า สำหรับมาตรการสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีกลุ่ม Start up ของธนาคารจะเน้นเข้าไปให้ความช่วยเหลือและเป็นที่ปรึกษา ผ่านโครงการ SME Business Matching Day หรือ มหกรรมจับคู่ดี SME แห่งชาติ เพื่อสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีในการขยายตลาด ตั้งเป้าสนับสนุนให้ได้ปีละ10รายขึ้นไป และยังมีเงินกองทุนร่วมลงทุน vanture capita lอีก 300-400ล้านบาทพร้อมสนับสนุนด้วย

“ปีนี้ธนาคารจะเน้นเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ ทำให้มีศักยภาพเข้าถึงสินเชื่อ  มากกว่าเน้นการปล่อยสินเชื่อในขณะที่เอสเอ็มอียังไม่พร้อมเสี่ยงชำระหนี้ไม่ได้  และปีนี้ยังเป็นอีกปีที่หนี้เสียเอสเอ็มอีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นธนาคารยังต้องประคับประคองระวังการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีต่อเนื่อง”

ตั้งเป้าปล่อยกู้ใหม่4-5หมื่นล้าน

สำหรับธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีปีนี้เติบโต 6-7% คิดเป็นสินเชื่อใหม่ 40,000-50,000 ล้านบาท และมีสัดส่วนเอสเอ็มอีกลุ่มStart up ไม่เกิน10% ขณะที่พอร์ตสินเชื่อคงค้างลูกค้าเอสเอ็มอีอยู่ที่ 560,000 ล้านบาท ฐานลูกค้าประมาณ 140,000ราย

ส่วนหนี้เสียปัจจุบันอยู่ที่ 2.67% สำหรับสถานการณ์หนี้เสียในกลุ่มลูกค้าดังกล่าวปีนี้ มองว่า หากเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวไม่มากนัก อาจจะส่งผลต่อลูกค้าเอสเอ็มอีรายเดิม ซึ่งไม่เหมือนกับลูกค้ารายใหม่ที่จะเข้ามาในปีนี้ที่สามารถรับกับภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าได้ทำให้โอกาสเกิดหนี้เสียน้อยกว่าลูกค้าเก่า และคาดว่าจะมียอดขายดีกว่าปีก่อนจากความเชื่อมั่นการบริโภคฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ธนาคารพร้อมที่จะคุมเข้มหนี้เสียดังกล่าวไม่ให้ขยับตัวเพิ่มขึ้นเกินที่ธนาคารวางเป้าหมายไว้

สำหรับมหกรรมจับคู่ดี SME แห่งชาติ ถือเป็นโครงการแรกภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือในส่วนของ Big Brother (พี่ช่วยน้อง) ของคณะสานพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงช่องทางการจัดจำหน่ายชั้นนำ และเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย เพราะการขยายตลาดเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญของธุรกิจเอสเอ็มอี แม้ว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะมีของดี แต่ขาดช่องทางการจัดจำหน่ายที่จะเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างได้

เดินหน้า3โครงการหนุนเอสเอ็มอี

นายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารจับมือ ภาคีภาครัฐและเอกชน ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "สานพลังประชารัฐ ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และวิสาหกิจเริ่มต้น ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายตามแผนการดำเนินธุรกิจของธนาคารปีนี้ พร้อมเดินหน้า 3 โครงการพิเศษสนับสนุนธุรกิจ SMEs และ Start-up ให้สามารถแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืน

ประกอบด้วย โครงการกองทุนร่วมลงทุน SCB Venture Capital สินเชื่อพิเศษวงเงิน 100 ล้านบาท สำหรับกลุ่ม SME Start-up and IDE Start-up และกลุ่มธุรกิจเพื่อสังคม ให้สามารถตั้งหลักดำเนินธุรกิจได้อย่างเข้มแข็ง โครงการ Marketplace สร้างช่องทางการจัดแสดงและนำเสนอสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง และโครงการ SME Expo - Total Business Solutions ที่รวบรวมทุกคำตอบสำหรับเอสเอ็มอี ในทุกช่วงธุรกิจ ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนช่วยหนุนเศรษฐกิจและสังคมของไทยเติบโตจากรากฐานที่เข้มแข็ง

"ธนาคารตระหนักถึงความสำคัญของกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ความรู้ตลอดจนความช่วยเหลือพิเศษต่างๆ ในสถานการณ์ที่เอสเอ็มอี ประสบกับภาวะยากลำบาก และขณะนี้ธนาคารได้เตรียมจัดโครงการพิเศษเบื้องต้นเพื่อสนับสนุนเอสเอ็มอีกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โครงการกองทุนร่วมลงทุน SCB Venture Capital วงเงินรวม 100 ล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการส่งเสริมกิจการแก่กลุ่ม Start-up และวิสาหกิจเพื่อสังคม ส่งเสริมให้ขยายกิจการสู่ตลาดระดับภูมิภาคและตลาดโลก โดยให้สินเชื่อด้วยเงื่อนไขพิเศษ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน วงเงินสินเชื่อสูงสุดรายละ 5 ล้านบาท รวมทั้งการร่วมสนับสนุนโครงการส่งเสริมเอสเอ็มอี เข้าถึงแหล่งทุนผ่านทางสมาคมธนาคารไทยอีกทางหนึ่งด้วย"